วิดีโอ
สรุป
จักรวาลดูเหมือนมหาสมุทรที่ว่างเปล่าและกว้างใหญ่ ประปรายไปด้วยเกาะกาแล็กซีที่หายาก…
แต่นี่เป็นเพียงภาพลวงตา
มีเพียงส่วนเล็กๆ ของอะตอมทั้งหมดที่พบในกาแล็กซี ขณะส่วนที่เหลือคาดว่าล่องลอยอยู่ที่มวลสารระหว่างดาวฤกษ์
เช่นเดียวกับรากของต้นไม้ใหญ่ ก๊าซจะกระจายออกจากกาแล็กซีแต่ละแห่ง
แรงโน้มถ่วงนำพามวลใหม่ๆ เข้าสู่ป่าจักรวาลที่หนาแน่นแห่งนี้
ที่มวลสารระหว่างดาวฤกษ์นี้ มีวัตถุดิบในการสรรค์สร้าง คือ ไฮโดรเจนและฮีเลียม
ถักทอเป็นแผ่นและเส้นใยที่ไหลเข้าสู่กาแล็กซี ซึ่งในที่สุดมันก็สร้างดาวฤกษ์ขึ้นมา
แต่ถ้าเรามองลึกลงไป เราจะเห็นว่าใครคือผู้รับผิดชอบที่แท้จริง นั่นคือ ควอซาร์ (Quasar)
ซึ่งเป็นวัตถุทรงพลังที่สุดเพียงหนึ่งเดียวที่มีอยู่
มีขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายเมื่อเทียบกับแม่น้ำแอมะซอน
มันอาศัยอยู่ในใจกลางของกาแล็กซีบางแห่ง ส่องแสงด้วยพลังของดาวฤกษ์นับล้านล้านดวง
พ่นไอพ่นของสสารขนาดใหญ่ออกมา เปลี่ยนแปลงรูปร่างของจักรวาลรอบตัวมันใหม่ทั้งหมด
มันมีพลังมากพอจนสามารถฆ่ากาแล็กซีได้
มันคืออะไร? และพวกมันหล่อหลอม โครงสร้างของเอกภพตามต้องการได้อย่างไร?
[INTRO]
Everywhere You Look, Weird Things in the Sky
ในปี 1950 นักดาราศาสตร์สังเกตเห็น คลื่นวิทยุลึกลับดังมาจากจุดต่างๆ ทั่วทั้งท้องฟ้า
พวกมันถูกตั้งชื่อว่า “แหล่งกำเนิดคลื่นวิทยุคล้ายดาวฤกษ์” หรือ “ควอซาร์”
เนื่องจากพวกมันมีจุดเหมือนดาวฤกษ์ แต่มองเห็นได้ ผ่านคลื่นวิทยุมากกว่าแสงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ทุกอย่างเกี่ยวกับมันเป็นเรื่องแปลก
บางส่วนกระพริบ บ้างก็ปล่อยรังสีเอ็กซ์พลังงานสูง นอกจากคลื่นวิทยุ แต่ทั้งหมดดูเหมือนจะมีขนาดเล็กมาก
พวกมันยังเคลื่อนที่เร็วมาก มากถึง 30% ของความเร็วแสง
คำอธิบายเดียวคือ พวกมันต้องอยู่ห่างไกลจนความเร็วของมัน คือการขยายตัวของเอกภพที่กำลังเคลื่อนที่ห่างจากเรา
แต่ระยะทางที่มหาศาลนี้หมายความว่า ควอซาร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ดาวฤกษ์
แต่เป็นแกนกลางของกาแล็กซีที่ยังทำงานอยู่ ซึ่งห่างออกไปหลายพันล้านปีแสง!
และมันยิ่งบ้าไปกว่านั้น!
เพื่อให้ปรากฏได้สว่างและดังมาก ดูจากระยะทางที่กว้างใหญ่นี้แล้ว พวกมันจึงสว่างกว่าทั้งทางช้างเผือกหลายพันเท่า
สัตว์ประหลาดที่ระเบิดและกรีดร้องในความว่างเปล่า ด้วยความรุนแรงที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน
ขณะที่เราทำแผนที่ท้องฟ้า เราค้นพบควอซาร์กว่าล้านแห่ง และดูเหมือนว่าพวกมันทั้งหมดจะอยู่ไกลมากๆ
การมองไปในอวกาศ ไกลออกไปหมายถึงเมื่อนานมาแล้ว เพราะแสงของมันต้องใช้เวลานานกว่าจะมาถึงเรา
ควอซาร์มีอยู่ทั่วไปในเอกภพยุคแรกเริ่ม และมีจุดสูงสุดเมื่อ 1 หมื่นล้านปีก่อน เมื่อกาแล็กซีและเอกภพเองยังอยู่ในช่วงแรกๆ
ลองย้อนเวลากลับไปเมื่อ 3 พันล้านปีหลังจากเกิดบิ๊กแบง และดูว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นกัน
The Incredible Power of Quasars
กาแล็กซีวัยแบเบาะจะสามารถสว่างและรุนแรง อย่างไม่น่าเชื่อได้อย่างไร?
แสงและรังสีทั้งหมดนั้นไม่สามารถเป็นดาวฤกษ์ได้ เนื่องจากมันไม่ได้มีความใกล้เคียงกันเลย
และเนื่องจากกาแล็กซีมีแนวโน้ม ที่จะเติบโตตามเวลาโดยการรวมตัวกัน
แสงดาวจากกาแล็กซีขนาดเล็ก จึงไม่ควรสว่างกว่ากาแล็กซีใดๆ ในปัจจุบัน
มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะสร้าง พลังงานจำนวนมหาศาลที่ควอซาร์ส่องออกมา
นั่นคือ ให้อาหารแก่หลุมดำมวลยิ่งยวด
เรายังไม่รู้ว่าพวกมันก่อตัวขึ้นได้อย่างไร แต่ดูเหมือนว่ากาแล็กซีทุกแห่งจะมีมันอยู่ที่ใจกลาง
แต่สิ่งที่สว่างที่สุดในจักรวาลจะเป็นหลุมดำได้อย่างไร ไม่ใช่ว่ามันดักจับทุกสิ่งที่ข้ามขอบฟ้าเหตุการณ์ไปหรือ?
แสงของควอซาร์ไม่ได้มาจากภายในหลุมดำเหล่านี้
แต่มาจากอวกาศรอบๆ มัน เป็นจานก๊าซมหึมา ซึ่งโคจรอยู่รอบๆ เรียกว่า “จานสะสมมวลสาร”
ควอซาร์ใช้เชื้อเพลิงเดียวกับดาวฤกษ์ในการส่องแสง นั่นคือสสาร
เพียงแต่หลุมดำเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการแปลงสสารเป็นพลังงานในจักรวาล
พลังงานที่ปล่อยออกมาจากสสารที่ตกลงไปในหลุมดำ
อาจมากกว่าพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน ที่ปล่อยออกมาในแกนกลางของดาวถึง 60 เท่า
เนื่องจากพลังงานที่หลุมดำปล่อยออกมา นั้นมาจากแรงโน้มถ่วง ไม่ใช่จากปฏิกิริยานิวเคลียร์
สสารที่ตกลงไปในหลุมดำจะมีความเร็วเกือบเท่าความเร็วแสง ก่อนที่มันจะข้ามขอบฟ้าเหตุการณ์ไป
ส่งเสียงพึมพัมด้วยพลังงานจลน์จำนวนมหาศาล
แน่นอนว่าเมื่อเข้าไปในหลุมดำแล้ว มันก็จะใช้พลังงานนั้นไปด้วย
คุณจะเห็นพลังงานนี้ก็ต่อเมื่อคุณทิ้งสสารของคุณอย่างถูกวิธี
หล่นลงไปทันทีและจักรวาลภายนอกไม่ได้อะไรเลย
แต่เมื่อคุณมีสสารมากมาย มันจะหมุนวนจนเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ไปยังขอบฟ้าเหตุการณ์และก่อตัวเป็นแผ่นจาน
การชนกันระหว่างอนุภาคและแรงเสียดทาน ทำให้เกิดความร้อนสูงถึงหลายแสนองศา
ในอวกาศที่ไม่ใหญ่ไปกว่าระบบสุริยะของเรา
แกนกลางของกาแล็กซีสามารถปล่อยพลังงาน ได้มากกว่าดาวฤกษ์ทั้งหมดรวมกันหลายเท่า
นี่คือสิ่งที่ควอซาร์เป็น หลุมดำมวลยิ่งยวดที่มีงานเลี้ยง
และหลุมดำพวกนี้กินเยอะมากๆ
ควอซาร์ทั่วไปกินก๊าซถึงหนึ่งร้อยมวลโลกต่อนาที!
เมื่อหนึ่งหมื่นล้านปีก่อน เอกภพมีขนาด ประมาณหนึ่งในสามเท่าของขนาดปัจจุบัน
ดังนั้นมวลสารระหว่างดาวฤกษ์จึงกระจายออกไปน้อยกว่านี้มาก
หมายความว่าเส้นใยของก๊าซรอบๆ ควอซาร์ สามารถให้อาหารพวกมันเหมือนในงานเลี้ยง
ทำให้พวกมันคายแสงและรังสีปริมาณมากออกมา
พลังไอพ่นของควอซาร์ที่สว่างที่สุดทำให้สนามแม่เหล็ก ของสสารรอบตัวมันพันกันเป็นรูปกรวยแคบๆ
เช่นเดียวกับเครื่องเร่งอนุภาค พวกมันปล่อยลำแสงมหาศาลของสสารออกมา
ไถผ่านโดยรอบมวลสารระหว่างดาวฤกษ์ ก่อตัวเป็นก้อนสสารที่มีขนาดหลายแสนปีแสง
มีขนาดใหญ่จนไม่สามารถเข้าใจได้
จุดเล็กๆ ในกาแล็กซีที่แยกออกเป็นหย่อมๆ ในจักรวาล ที่มีความยาวถึงหลายแสนปีแสง
แต่ควอซาร์ไม่สามารถกินได้นาน อาจได้ไม่กี่ล้านปี เนื่องจากงานเลี้ยงของมันจะทำลายกาแล็กซีของมันในที่สุด
How Quasars Kill Galaxies
โอเค บางที “การฆ่า” อาจจะดูเกินจริงไปหน่อย
กาแล็กซียังคงอยู่หลังจากที่ควอซาร์ดับลง แต่มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ควอซาร์เป็นหนึ่งในสิ่งที่ร้อนที่สุดและสว่างที่สุดในจักรวาล
ทำลายกาแล็กซีด้วยการทำให้มันร้อนเกินไป และหยุดการก่อตัวของดาวฤกษ์
ดาวฤกษ์คือก๊าซที่ยุบตัวในตัวเองแล้วร้อนจัด
แต่ในเมฆก๊าซที่ร้อนอยู่แล้ว อะตอมจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
เมื่อมันชนกัน มันกระแทกอย่างแรงและออกแรงกดที่ต้านทาน การบีบตัวของแรงโน้มถ่วง ก๊าซร้อนจึงไม่สามารถก่อตัวเป็นดาวฤกษ์ได้
แต่ก๊าซที่ดีที่สุดสำหรับการก่อตัวเป็นดาวฤกษ์นั้นเย็นอยู่แล้ว และจะไม่ต่อต้านเมื่อถึงเวลาที่จะยุบตัวเป็นดาวฤกษ์
ยิ่งไปกว่านั้น ควอซาร์ยังผลักก๊าซออกจากกาแล็กซีของพวกมัน
สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้ควอซาร์อดอยากเท่านั้น แต่กาแล็กซีของมันก็สูญเสียวัตถุดิบสำหรับดาวฤกษ์ดวงใหม่ด้วย
แม้จะฟังดูน่าเศร้า แต่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสิ่งมีชีวิต
อีกทางหนึ่งอาจอันตรายกว่ามาก คือการมีดาวฤกษ์มากเกินไป
ดาวฤกษ์ใหม่ก่อตัวมักจะตามมาด้วยดาวมวลมาก ระเบิดเป็นซูเปอร์โนวา ดังนั้นดาวเคราะห์จะถูกเผาให้แห้งแล้ง
แต่แน่นอนว่ามันซับซ้อนกว่านั้น
เช่นเดียวกับความซับซ้อนของชีวมณฑลของโลกเราเอง ทุกส่วนของกาแล็กซีขึ้นอยู่กับอิทธิพลของส่วนอื่นๆ ของกาแล็กซี
ขณะที่สิ่งที่ร้อน เช่น ควอซาร์และซูเปอร์โนวา มีแนวโน้มที่จะผลักก๊าซออกจากกาแล็กซี
คลื่นกระแทกและไอพ่นควอซาร์ก็สามารถบีบอัดก๊าซได้เช่นกัน ทำให้เกิดดาวฤกษ์ดวงใหม่ๆ ในระยะเวลาอันสั้น
แต่โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถพูดได้ว่าหากไม่มีสิ่งต่างๆ เย็นลงกว่านี้อีกสักนิด เราก็คงจะไม่มีอยู่จนถึงวันนี้
ซึ่งนำเราไปสู่คำถามสุดท้าย
Did the Milky Way Have a Quasar in the Past?
มันไม่ชัดเจนว่ากาแล็กซีทุกแห่ง ผ่านระยะที่มีควอซาร์หรือไม่
แต่การทำความเข้าใจควอซาร์ที่อยู่ห่างไกล อาจให้เบาะแสเกี่ยวกับประวัติของทางช้างเผือก
กาแล็กซีไม่สามารถรักษาประวัติของมันได้อย่างดี
เช่นเดียวกับเม็ดทรายบนชายหาด การปั่นป่วนไม่รู้จบผสมกับร่องรอยในอดีตของพวกมัน
เป็นไปได้ว่าครั้งหนึ่งทางช้างเผือกเคยเป็นควอซาร์
ซึ่งอาจทำให้หลุมดำมวลยิ่งยวด Sagittarius A* เติบโตเป็น 4 ล้านเท่าของมวลดวงอาทิตย์
และแม้ว่ามันจะสงบอยู่ในตอนนี้ แต่ Sagittarius A* อาจกลายเป็นควอซาร์ได้ในอนาคต
ในอีกไม่กี่พันล้านปี กาแล็กซีทางช้างเผือก จะรวมกับกาแล็กซีอันโดรเมดา
เราจะได้เห็น “ดับเบิ้ลควอซาร์” กว่าร้อยแห่งใน กาแล็กซีที่ชนกัน ซึ่งมีก๊าซใหม่สำหรับหลุมดำตรงกลาง
แต่มันจะอยู่ได้ไม่นาน
เมื่อกาแล็กซีรวมกัน หลุมดำมวลยิ่งยวดก็รวมกันเช่นกัน
จมลงสู่ใจกลางกาแล็กซีใหม่ของมัน เตะฝุ่นและดวงดาวออกไปทุกทิศทาง
เราไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่มันคงจะเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ
บางทีสิ่งมีชีวิตบางอย่างในอนาคตอันใกล้ กำลังจะได้เห็นมันและรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่ได้เห็น
แต่คุณไม่ต้องรอนานขนาดนั้น
มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายให้คุณ ได้สำรวจที่นี่บนโลกใบนี้ ณ ตอนนี้
หากคุณมีความรู้ที่จะเข้าใจสิ่งนั้น
เพื่อช่วยคุณในเรื่องนี้ เราได้สร้างชุดบทเรียน เพื่อยกระดับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของคุณไปอีกขั้น
สร้างขึ้นจากความร่วมมือกับเพื่อนๆ ของเราที่ Brilliant.org
บทเรียนเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าใจหัวข้อต่างๆ จากวิดีโอยอดนิยมของเราอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ตั้งแต่โรคพิษสุนัขบ้าและเมแทบอลิซึม ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไปจนถึงภูมิอากาศวิทยา
นอกจากนี้ยังมีบทเรียนเกี่ยวกับหลุมดำ
ซึ่งคุณสามารถเจาะลึกถึงหลักการพื้นฐาน ที่อยู่เบื้องหลังของการก่อตัวและพฤติกรรมของหลุมดำ
ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจะช่วยให้คุณเข้าใจบทบาท ของมันในการขับเคลื่อนควอซาร์ที่เราพูดถึงในวิดีโอนี้
Brilliant เป็นเครื่องมือการเรียนรู้แบบโต้ตอบ
ที่ทำให้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ สามารถเข้าถึงได้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง
เพราะเรารู้ว่าหากต้องการเรียนรู้บางอย่างจริงๆ คุณต้องลงมือทำมัน
ให้คิดว่าแต่ละบทเรียนเป็นวิดีโอ ที่สอนแบบตัวต่อตัวของ Kurzgesagt
Brilliant มีบทเรียนอื่นๆ อีกหลายพันบทเรียนให้ได้สำรวจเช่นกัน
เช่นหัวข้อทางคณิตศาสตร์อย่าง พีชคณิตและความน่าจะเป็น ไปจนถึงหลักสูตรเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและวิทยาการข้อมูล
หลักสูตรล่าสุดของพวกเขา “How Technology Works” จะพาคุณเจาะลึกถึงเทคโนโลยีที่คุณใช้ทุกวัน
คุณจะเดินตามรอยเท้าของแฮ็กเกอร์เพื่อค้นหาว่าเหตุใด รหัสผ่านบางรหัสจึงใช้เวลาหลายสิบปีในการถอดรหัส
สำรวจว่าดาวเทียมในอวกาศรู้ได้อย่างไร ว่าคนขับรถร่วมของคุณอยู่บนถนน
เรียนรู้ว่าทำไมวิดีโอ Kurzgesagt ที่คุณชื่นชอบ อาจถูกบัฟเฟอร์บน Youtube และอีกมากมาย
หากต้องการลงมือปฏิบัติจริงเกี่ยวกับบทเรียนของ Kurzgesagt และสำรวจทุกสิ่งที่ Brilliant นำเสนอ
คุณสามารถเริ่มทดลองใช้ฟรี 30 วันได้ โดยลงชื่อสมัครใช้ที่ Brilliant.org/nutshell
มีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับผู้ชม Kurzgasagt
200 คนแรกที่ใช้ลิงก์จะได้รับส่วนลด 20% สำหรับการเป็นสมาชิกรายปีหลังจากการทดลองใช้สิ้นสุดลง
เราชอบที่จะเห็นว่าสิ่งต่างๆ ลงล็อกอย่างไรกับการค้นคว้าของเรา
Brilliant มอบเครื่องมือให้คุณ ได้เข้าใจว่าทุกอย่างเข้ากันอย่างไร
เรารู้ว่าคุณรอมานานแล้ว เรามาเปิดเผยพินรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันอันถัดไปกัน
นั่นคือ ทรงกลมไดสัน
พินเซ็ตพิเศษนี้แสดงถึงความฝัน ที่เรามีต่ออนาคตของมนุษยชาติ
ชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แล้วมันจะเรืองแสงในที่มืด
เปิดให้พรีออเดอร์เพียง 72 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นควรสั่งพรีออเดอร์เลยก่อนที่จะหมดเวลา
พินรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันอันถัดไปจะถูกเปิดเผยในเร็วๆ นี้
[OUTRO]
translated by anothertemp_