ทำไมมีคนต่างดาวอาจจะกำลังมาหาเราอยู่แล้ว | Kurzgesagt

🎁Amazon Prime 📖Kindle Unlimited 🎧Audible Plus 🎵Amazon Music Unlimited 🌿iHerb 💰Binance

วิดีโอ

สรุป

จักรวาลนั้นยิ่งใหญ่และกว้างไกล มีกาแล็กซีหลายแสนล้านแห่ง ดาวฤกษ์หลายล้านล้านดวง และดาวเคราะห์มากมายนับไม่ถ้วน

หากในส่วนที่เล็กที่สุดก็ยังอาศัยอยู่ได้ จักรวาลก็ควรจะเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต

แต่เรายังไม่พบอะไรเลย มีแค่ความว่างเปล่า แล้วคนอื่นๆ อยู่ที่ไหน?

คำตอบของปริศนานี้อาจน่าตื่นเต้นพอๆ กับความน่าขนลุก

นั่นคือเราเกิดเร็ว เกิดมาก่อนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เกือบทั้งหมด แต่ในไม่ช้า สิ่งนี้อาจเปลี่ยนไป

ไม่เพียงแต่มนุษย์ต่างดาวอาจปรากฏตัวเท่านั้น พวกมันยังสามารถล้อมรอบพวกเราได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

การแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้สำหรับจักรวาลอาจกำลังจะเริ่มขึ้น

[INTRO]

แม้ว่าวิดีโอนี้จะอิงตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

แต่เรากำลังเสนอแนวคิดที่น่าสนใจ อิงจากข้อมูลเพียงเล็กน้อยและการประมาณค่าจำนวนมาก

ดังนั้นอย่าลืมพิจารณาแนวคิดเหล่านี้ด้วย

เอาล่ะ เราต้องดูคำถามสำคัญ 3 ข้อ เพื่อทำความเข้าใจการแข่งขันในระดับจักรวาล:

  1. แบคทีเรียสร้างยานอวกาศได้เร็วแค่ไหน?

หากต้องการเป็นอารยธรรมแห่งดวงดาว เราทราบดีว่าสิ่งมีชีวิตต้องผ่านขั้นตอนยากๆ หลายขั้นตอน

เริ่มต้นด้วยสิ่งที่ไม่มีชีวิต แล้วกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิต

จากนั้นต้องจัดระเบียบเป็นเซลล์ และเซลล์เหล่านี้ ต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์

สิ่งนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน ซึ่งมีสมองขนาดใหญ่เรียนรู้ที่จะใช้เครื่องมือและภาษา

อารยธรรมต้องก่อตัวขึ้นจากวัฒนธรรมที่ให้คุณค่า กับความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี

จากนั้นพวกเขาจำเป็นต้อง ออกไปผจญภัยนอกดาวบ้านเกิดของตน

บนโลก สิ่งมีชีวิตปรากฏขึ้นทันทีที่มหาสมุทรก่อตัวขึ้น

แต่จากนั้นใช้เวลาถึงสองพันล้านปี ในการเปลี่ยนจากเซลล์เดียวไปเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์

และอีกสองพันล้านปีกว่าที่เราจะกำเนิดขึ้นมา

แม้ว่าวัฒนธรรม อารยธรรม และการเดินทางในอวกาศ จะพัฒนาขึ้นเร็วมากๆ ก็ตาม

สิ่งต่างๆ มันใช้เวลานานขนาดนั้น หรือว่านี่มันเร็วสุดๆแล้ว?

นอกจากนี้การผ่านขั้นตอนหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าจะรับประกันขั้นตอนถัดไป

เซลล์หลายเซลล์บนโลกวิวัฒนาการมาอย่างอิสระมากกว่า 25 ครั้ง แต่มีเผ่าพันธุ์เดียวเท่านั้นที่สร้างยานอวกาศได้

เราไม่รู้ว่าชีวิตต้องผ่านอีกกี่ก้าว และอีกนานเท่าใด กว่าที่จะเกิดอารยธรรมทางเทคโนโลยีอีก แต่มันก็อาจมีอีกมาก

และเป็นไปได้ว่าบนดาวเคราะห์หลายล้านล้านดวง สิ่งมีชีวิตต้องดิ้นรนมาหลายพันล้านปี

เนื่องจากเราไม่เห็นอารยธรรมทางเทคโนโลยีอื่นๆ เลย มันอาจเป็นไปได้ว่าเราเป็นข้อยกเว้นที่หายาก

เราอาจเป็นหนึ่งในอารยธรรมกลุ่มแรกหรืออาจเป็น อารยธรรมทางเทคโนโลยีกลุ่มแรกในทางช้างเผือก

แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปริศนา

ยิ่งไปกว่านั้น เราอาจเพิ่งมาถึงกรอบเวลาที่สมบูรณ์แบบ

  1. เหตุใดมนุษย์จึงดำรงอยู่ในจักรวาล ณ เวลานี้?

เอกภพมีอายุประมาณ 13,800 ล้านปีแล้ว

แต่ไม่มีอารยธรรมทางเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีโอกาสปรากฏขึ้นก่อนหน้าเรา

เนื่องจากในเอกภพก่อนหน้านี้ สิ่งมีชีวิตจะมีช่วงเวลา ที่ค่อนข้างยากในการเกิด ยากต่อการเจริญเติบโต

เพราะมันมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร

ดาวฤกษ์ยุคแรกๆ ระเบิดอย่างต่อเนื่อง กาแล็กซีต่างๆ ชนกัน

และหลุมดำมวลยิ่งยวดได้ปล่อยรังสีจำนวนมหาศาลออกมา เพียงพอที่จะทำลายกาแล็กซีซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ดวงอาทิตย์ของเรากำเนิดขึ้น ในต้อนท้ายของการแสดงความตายของเอกภพนี้

จักรวาลไม่เคยต้อนรับสิ่งมีชีวิตมากไปกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ดังนั้นมนุษยชาติจึงมาถึงจุดที่สะดวกสบายมาก อาจเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้สำหรับสิ่งมีชีวิตที่จะเติบโต

แล้วอนาคตล่ะ?

ดวงอาทิตย์เผาไหม้สว่างมากกว่าดาวฤกษ์ ในกาแล็กซีของเราถึง 90% และจะสว่างขึ้นเรื่อยๆ

ในอีกประมาณพันล้านปี มหาสมุทรทั้งหมดบนโลกจะเดือด และดวงอาทิตย์จะกลายเป็นยักษ์ที่กลืนโลกไปทั้งใบ

ดังนั้นในบริบทของเอกภพแล้ว ดวงอาทิตย์จึงมีอายุสั้นมาก

ดาวฤกษ์ส่วนใหญ่เป็นดาวแคระแดงที่สามารถประคับประคอง ให้ดาวเคราะห์สามารถอาศัยอยู่ได้เป็นเวลาหลายสิบล้านล้านปี

สิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์เหล่านี้มีกรอบเวลาที่ยาวนาน อย่างไม่น่าเชื่อในการปรากฏขึ้นและผ่านขั้นตอนที่ยากลำบาก

แม้จะไม่รู้เลยว่าสิ่งมีชีวิตที่หายากหรือธรรมดานั้นเป็นอย่างไร

อารยธรรมทางเทคโนโลยีมีโอกาสปรากฏตัว บนดาวเคราะห์ที่มีอายุยืนเหล่านี้ในอนาคตมากกว่าในอดีต

เพราะหากอารยธรรมต่างๆ ปรากฏขึ้นในทางช้างเผือก แบบสุ่มภายในกรอบเวลาหนึ่งล้านล้านปี

มันก็จะมีน้อยมาก (ถ้าหากว่ามี) ที่จะปรากฏขึ้นก่อนวันนี้

จากนั้นอีกสองสามกลุ่มก็มาถึง ในช่วงเวลาหนึ่งพันล้านปีที่เราอยู่

ก่อนที่อารยธรรมดวงดาวทั้งหมดที่เคยมีอยู่ จะถือกำเนิดขึ้นพร้อมกัน

การกระจายตัวคล้ายสึนามิที่แปลกประหลาดนี้ เป็นผลมาจากทั้งโมเดลขั้นตอนที่ยากและอย่างอื่น:

กำหนดเวลาสำหรับอารยธรรมอวกาศ

อารยธรรมใดก็ตามที่ตามมาจะพบว่า เป็นการยากที่จะมีที่ว่างในการอยู่รอด

ดังนั้นสิ่งมีชีวิตที่มีศักยภาพทั้งหมดจึงต้องยัดเยียดเข้ามาก่อน

ที่มนุษยชาติมีอยู่ในขณะนี้ เพราะไม่เช่นนั้นเราอาจพลาดกำหนดเวลานี้

อะไรหรือใครที่เป็นคนกำหนดเส้นตายนี้?

  1. ทำไมมนุษย์ต่างดาวถึงไม่อยู่บนโลก?

มนุษย์มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบขยับขยายและกระหายพลังงาน

เราได้แพร่กระจายไปทั่วโลกและทำให้โลกเป็นของเรา

เทคโนโลยีของเราได้รับการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เริ่มต้นอย่างช้าๆ และเริ่มรวดเร็วจนน่าตกใจ

หากสิ่งเหล่านี้ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และลูกหลานของเรา ต้องการที่จะประสบความสำเร็จ พวกเขาจะขยายไปสู่อวกาศ

เราสามารถสร้างฝูงบินไดสันเพื่อพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเปลี่ยนดาวเคราะห์ให้เป็นบ้านหลังใหม่

เราสามารถเข้าถึงระยะทางระหว่างดวงดาวได้ ทำให้เราไปถึงดาวเคราะห์รอบดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างไกลได้

ถ้าเรามีแรงจูงใจพอ เราก็จะกลายเป็นอารยธรรมทางช้างเผือกได้

อารยธรรมที่ทำสิ่งนี้เรียกว่า “ส่งเสียงดัง(loud)” เนื่องจากกิจกรรมที่ทำมันสร้าง “เสียงรบกวน(noise)”

เป็นสัญญาณที่สามารถตรวจจับได้จากระยะไกล

ลองนึกภาพคนที่อยู่ในป่ากำลังตัดต้นไม้ ก่อกองไฟและสร้างถนน

ยิ่งทำงานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสังเกตเห็นได้ง่ายเท่านั้น

อารยธรรมทางเทคโนโลยีที่กำลังขยายตัวคงจะยากต่อการหลบพ้น

กล้องโทรทรรศน์ของเราจะจับพลังงานทั้งหมดนั้นได้

และเราจะระบุการรบกวนเทียมที่เกิดขึ้น กับดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ได้อย่างชัดเจน

ผลที่ตามมาของสิ่งนี้คือทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหายอย่างมาก

การถางป่าหมายถึงการสิ้นสุดของสัตว์ป่า

กิจกรรมของมนุษย์ไม่เหลือโอกาส ให้อารยธรรมของกระรอกปรากฏขึ้น

ไม่ใช่เพราะเราเกลียดกระรอก แต่เป็นเพราะ พวกมันทำอย่างนั้นเลยไม่เคยคิดว่าเราต้องการไม้

ในทำนองเดียวกัน หากอารยธรรมที่ส่งเสียงดังวิ่งไปทั่วกาแล็กซีในอดีต

ปรับสภาพดาวเคราะห์หรือเก็บเกี่ยวพลังงานจากดวงดาว

พวกมันอาจขัดขวางการดำรงอยู่ของเรา

หากมนุษย์ต่างดาวยึดครองโลกในขณะที่เรายังเป็นตะกอนในมหาสมุทร ตะกอนนั้นคงไม่มีทางกลายมาเป็นมนุษย์ได้

นี่คือวิธีที่เอเลี่ยนที่ส่งเสียงดัง กำหนดเส้นตายให้อารยธรรมใหม่ๆ ปรากฏขึ้น

กาแล็กซีอาจมีเวลาหลายล้านล้านปีในการสร้างสิ่งมีชีวิต แต่อาจมีเพียงช่วงสั้นๆ สำหรับการขยายและเติบโต

แม้ว่าอารยธรรมที่ส่งเสียงดังจะเคารพดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิต เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และขยายตัวรอบๆ พวกมัน

เช่นเดียวกับที่มนุษย์ทำกับสัตว์ป่าสงวน

อารยธรรมใดๆ บนดวงดาวนี้ก็คงไม่สามารถขยายตัวได้ต่อไป ติดอยู่บนเกาะเล็กๆ ตลอดกาล

แต่เรายังอยู่ที่นี่ มนุษย์ต่างดาวที่ส่งเสียงดังอาจไม่เคยมาที่นี่

แล้วเอเลี่ยนที่ไม่ขยายตัวล่ะ? พวกเขาอาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ ‘เงียบ’

พวกมันอาจจะจำกัดอยู่เพียงระบบดาวเดียว และไม่มีผลกระทบที่เห็นได้ชัดกับสภาพแวดล้อมในจักรวาล

มนุษย์ชาติก็เป็นเช่นนั้นในตอนนี้

เราคงไม่สามารถตรวจพบพวกเราเองจากอีกได้หนึ่งของทางช้างเผือกได้

หากพวกเขาเงียบตลอดไป อาจเป็นเพราะวัฒนธรรมหรือ ความสามารถของพวกเขา พวกเขาก็ไม่น่าเป็นกังวลสำหรับเรา

เรามีเพียงหนึ่งตัวอย่างที่ยกมาได้ นั่นคือมนุษยชาติ และตอนนี้เรากำลังอยู่บนเส้นทางที่จะส่งเสียงดัง

หากเราไม่ได้พิเศษและประสบความสำเร็จอยู่ดี

ก็จะมีอารยธรรมที่มีแรงจูงใจและทรัพยากรเหมือนกัน จะขยายออกไปนอกดาวบ้านเกิดของมันในที่สุด

โอเค อะไรคือผลที่ตามมาของสมมติฐานและแนวคิดเหล่านี้?

ผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง: การแข่งขันสู่ดวงดาว

หากเราเร็วจริงๆ ในที่สุดคนอื่นๆ ก็จะไล่ตามเราทัน อารยธรรมจะเกิดขึ้นทั่วทุกแห่งหน

และมนุษย์ต่างดาวกลุ่มใหม่เหล่านี้จะมองดูอวกาศ ไม่เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตและได้ข้อสรุปเดียวกัน คือ

พวกมันมีอยู่จริงเพราะอารยธรรมที่ส่งเสียงดังยังไม่ได้ยึดครองทุกสิ่ง

แต่อารยธรรมที่ส่งเสียงดังเพียงอารยธรรมเดียว สามารถรวมพวกมันจากกาแล็กซีทั้งหมดได้

พวกเราเหมือนกับพวกเรา ต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่สำคัญ

ว่าพวกเขาจะอยู่อย่างเงียบๆ สบายๆ และอยู่ที่ดาวของพวกเขาให้นานที่สุด

หรือจะเริ่มขยายตัวเพื่อยึดครองกาแล็กซี ก่อนที่คนอื่นจะมาถึง?

การพบปะผู้อื่นไม่จำเป็นต้องหมายถึงสงครามหรือความขัดแย้งเสมอไป

แต่หมายถึงพรมแดนใหม่ที่จะเกิดขึ้น หรือขีดจำกัดที่อาจคงอยู่ตลอดไป

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด อารยธรรมหนึ่ง อาจถูกอาณาจักรของผู้อื่นโอบล้อมไว้อย่างสมบูรณ์

ถึงคราวที่จะเป็นกาแล็กซีในน่านน้ำนิ่งไปตลอดกาล โดยไม่มีการควบคุมชะตากรรมของพวกเขา

หากเราต้องการที่นั่งที่โต๊ะผู้ใหญ่ของกาแล็กซี เราก็ควรไปทำงาน

หากเราเร็วจริงๆ เรามีโอกาสที่น่าเหลือเชื่อ

เพื่อหล่อหลอมดาวเคราะห์นับพันหรือหลายล้านดวง ตามวิสัยทัศน์และความฝันของเรา

และวันหนึ่งเมื่อเราพบผู้อื่น เราจะสามารถทักทายพวกเขา และพบพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน จะไม่ดีกว่าหรือ?

หากคุณต้องการค้นคว้าเกี่ยวกับความกว้างใหญ่ของจักรวาล จากมุมสบายๆ ในบ้านของคุณ

เรามีผลิตภัณฑ์มากมายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอวกาศ และวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่งสำหรับคุณ

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราได้รับการออกแบบและ ผลิตด้วยความรักแลัความเอาใจใส่จากเราที่ Kurzgesagt

สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของเรื่องราววิทยาศาสตร์ที่เราพยายามบอกเล่า

ดังนั้นเริ่มต้นการเดินทางของคุณบนช่องของเรา และไปต่อด้วยโปสเตอร์ สมุดบันทึก หรือตุ๊กตาของเรา

การสั่งซื้อทุกครั้งจะมอบเงินสนับสนุนให้กับสิ่งที่เราทำในช่องนี้โดยตรง

ขอบคุณมากๆ สำหรับการสนับสนุน และอย่าหยุดฝันถึงการผจญภัยในอวกาศ

[OUTRO]

translated by anothertemp_