วิดีโอ

สรุป

เมืองผีดิบที่อยู่ใต้การปิดล้อม

ทหารและตำรวจยิงฝูงซอมบี้ที่ติดเชื้อเต็มถนนอย่างไร้ความปราณี ที่พยายามหลบหนีและแพร่เชื้อไปยังเมืองอื่นๆ

นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายของคุณต่อสู้กับมะเร็ง น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าภาพยนตร์เรื่องไหนๆ

การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างไร?

[INTRO]

1. The Elimination Phase

ทุกอย่างเริ่มต้นจากเซลล์ที่เสียหายเซลล์เดียว

มันไม่สามารถซ่อมแซมรหัสพันธุกรรมได้อีกต่อไป ฆ่าตัวตายไม่ได้อีกต่อไป และเริ่มเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว

ณ จุดนี้ สิ่งต่างๆ ไม่ได้ดีและไม่ได้แย่

เซลล์นี้ยังไม่เป็นอันตรายถ้าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อีกไม่นานก็จะมี

ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ เซลล์ที่เสียหาย จะสร้างสำเนาของตัวมันเองอย่างต่อเนื่อง

จากเซลล์เดียวกลายเป็นสิบ หลายร้อย หลายพัน

เนื่องจากต้นฉบับเสียหาย สำเนาของมันจึงเสียหายและกลายพันธุ์ยิ่งกว่าเดิม

พวกมันกลายเป็นสายพันธุ์ต่างๆ เป็นกลุ่มที่ทำงานร่วมกันและแข่งขันกัน

บางสายพันธุ์กลายพันธุ์ในลักษณะที่ทำให้มันอ่อนแอลง การกลายพันธุ์ของสายพันธุ์อื่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร

ในขณะที่บางสายพันธุ์มีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นและอยู่รอดได้ดีขึ้น

ตอนนี้พวกมันรวมกันกลายเป็นเนื้องอกขนาดเล็กมากๆ ยังไม่ใช่มะเร็ง แต่ก็เกือบใช่แล้ว

เนื้องอกที่กำลังเติบโตต้องการทรัพยากรจำนวนมาก

หากเซลล์ไม่ได้รับอาหารและออกซิเจน เซลล์ก็จะตายและปัญหาจะคลี่คลายไปเอง

น่าเสียดายที่เซลล์ที่เสียหายบางส่วนได้ปลดล็อก การกลายพันธุ์ใหม่ที่ช่วยชีวิตเซลล์เหล่านั้น

คือความสามารถในการสั่งการเติบโตของหลอดเลือดใหม่

และร่างกายของคุณให้สารอาหารที่มันต้องการในการดำรงชีวิต

แต่ขณะที่เนื้องอกยังคงเติบโต มันก็เริ่มสร้างความเสียหาย

เซลล์ที่แข็งแรงในบริเวณใกล้เคียงเริ่มอดอยากและตาย ซึ่งดึงดูดความสนใจ

ในอีกแง่หนึ่ง เนื้องอกเล็กๆ นี้เป็นเหมือนเมืองของพวกอันธพาล

ลองนึกภาพว่ากลุ่มกบฏในบรุกลินตัดสินใจว่า พวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนิวยอร์กอีกต่อไป

แต่ได้ตั้งที่อยู่ใหม่ชื่อว่า เมืองเนื้องอก ซึ่งบังเอิญครอบครองอยู่บนพื้นที่เดิม

เมืองใหม่ต้องการเติบโต จึงสั่งซื้อ คานเหล็ก ซีเมนต์และผนังแห้งจำนวนมาก

สิ่งก่อสร้างใหม่ไม่เป็นไปตามเหตุผล มีการวางแผนที่ไม่ดี น่าเกลียด และโค้งงอจนเป็นอันตราย

มันสร้างขึ้นกลางถนน บนสนามเด็กเล่น และบนโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่

ย่านเก่าถูกทำลายหรือสร้างใหม่เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับสิ่งใหม่ๆ

ผู้อยู่อาศัยเดิมจำนวนมากติดอยู่ตรงกลางและเริ่มอดอยาก

สิ่งนี้ดำเนินไประยะหนึ่งจนกว่า กลิ่นแห่งความตายจะดึงดูดความสนใจได้ในที่สุด

ผู้ตรวจสอบอาคารและตำรวจปรากฏตัว

ในร่างกายของคุณจะถูกดึงดูดด้วยกลิ่นเหม็นของเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งไปกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงาน

เซลล์ภูมิคุ้มกันตัวแรกที่บุกรุกเข้าไปในเนื้องอก

นั่นคือ มาโครฟาจและเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ เป็นกองกำลังตำรวจที่ออกไปทำงานทันที ฆ่าและกินเซลล์เนื้องอก

มันจะปล่อยสัญญาณเคมีที่ทำให้ ทั้งระบบภูมิคุ้มกันรู้ว่ามีมะเร็งที่ต้องกำจัด

เซลล์เด็นไดรติก (Dendritic Cells) เป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของระบบภูมิคุ้มกันของคุณ

เก็บตัวอย่างเซลล์เนื้องอกที่ตายแล้ว และเริ่มใช้อาวุธหนักของคุณ

นั่นคือ เซลล์ทีผู้ช่วย และเซลล์ทีพิฆาต (Helper and Killer T Cells)

เราได้อธิบายถึงอาวุธพิเศษเฉพาะเหล่านี้แล้วในวิดีโออื่น

แต่สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้จริงๆ ก็คือ อาวุธเหล่านี้มีห้องสมุด ที่ลิสต์ทุกสิ่งที่เลวร้ายที่อาจเข้าสู่ร่างกายของคุณ

แม้ว่ามะเร็งแต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะ แต่ก็มีความเสียหายทางพันธุกรรมที่มันซ่อนไม่ได้

และเซลล์ทีของคุณรู้ว่าต้องมองหาอะไร พวกมันเป็นนักฆ่ามะเร็งที่อันตรายที่สุดที่คุณมี

เมื่อมันมาถึง เนื้องอกก็ขยายใหญ่ขึ้นเป็นหลายแสนเซลล์ แต่สิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไป

เซลล์ทีขัดขวางการเจริญเติบโตของหลอดเลือดใหม่

ซึ่งทำให้เซลล์เนื้องอกหลายพันเซลล์ อดอาหารและหยุดการเจริญเติบโต

นึกภาพว่าผู้ตรวจสอบอาคารปิดไฟฟ้าและน้ำ วางสิ่งกีดขวาง บนถนนในเมืองเนื้องอกเพื่อไม่ให้ส่งอาหารและวัสดุได้อีก

เมื่อไม่มีทางซ่อนตัวจากการสังหารได้ เนื้องอกก็ยุบลง เมื่อเซลล์เนื้องอกหลายแสนเซลล์ถูกสังหารหมู่

ซากของพวกมันจะถูกจัดการและถูกกินโดยมาโครฟาจ จากนั้นมันจะสั่งให้เนื้อเยื่อที่แข็งแรงสร้างเซลล์ใหม่

ร่างกายของคุณบดขยี้เมืองเนื้องอก ที่ผิดกฎหมายอย่างไร้ความปราณี

คุณจะไม่มีทางรู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ เกิดขึ้นภายในร่างกายของคุณกี่ครั้งแล้ว

เว้นแต่ว่า… ในกรณีนี้มีบางอย่างที่ไม่เป็นไปตามแผน

2. The Equilibrium Phase

น่าเสียดายที่การคัดเลือกโดยธรรมชาติ ทำลายชัยชนะของคุณ

เพื่อที่จะทำลายเนื้องอกอย่างสุดความสามารถ ระบบภูมิคุ้มกันของคุณเลือกเนื้องอกที่แข็งแรงที่สุดโดยไม่ตั้งใจ

โปรดจำไว้ว่าเนื้องอกประกอบไปด้วย สายพันธุ์ต่างๆ ที่เติบโตและกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ

ส่วนใหญ่จะถูกกำจัดให้หมดไป แต่มีเพียง ไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้นที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า

เซลล์หนึ่งเซลล์รอด มันมาจากสายพันธุ์ของเนื้องอกที่แข็งแรงที่สุด และรอดชีวิตจากการสังหารหมู่ได้ดีกว่าเซลล์อื่นๆ เพียงเล็กน้อย

มันตัดสินใจเริ่มทำทั้งหมดใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันจะดีกว่า

เซลล์เนื้องอกนี้แข็งแรงกว่าเซลล์หลายพันเซลล์ที่ถูกฆ่าตาย

มันอาจจะซ่อนตัวเก่งขึ้น หรืออาจจะสู้กลับเก่งขึ้น มันอาจจะเติบโตเร็วขึ้นหรือขโมยทรัพยากรเก่งกว่า

บางทีมันอาจจะอยู่รอดได้ด้วยออกซิเจนที่น้อยลงมาก

และทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

มันเหมือนกับว่ากลุ่มกบฏที่รอดชีวิต ซึ่งสร้างเมืองเนื้องอกได้รับบทเรียนแล้ว

ตอนนี้พวกมันรู้กฎหมายดีขึ้นและรู้วิธีฝ่าฝืน รู้ว่าใบอนุญาตอะไรช่วยมันได้บ้าง และรู้วิธีเลี่ยงตำรวจ

ดังนั้นเซลล์เนื้องอกที่รอดตายจึงสร้างสำเนา หลายพันชุดที่กลายพันธุ์และสร้างสายพันธุ์ใหม่

จนกระทั่งเนื้องอกเติบโตขึ้นอีกครั้ง ซึ่งประกอบไปด้วยเซลล์ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

แม้ว่าระบบภูมิคุ้มกันจะไม่สนใจ ในคราวนี้มันมีประสบการณ์ด้วยซ้ำ

แทนที่จะเริ่มจากตำรวจ หน่วยสวาทกลับเข้าไปทำลาย เมืองเนื้องอกทันทีและสังหารผู้อยู่อาศัยอย่างไร้ความปราณี

แต่เป็นอีกครั้งที่พวกเขาไม่ได้กำจัดทุกคน

มีหนึ่งในนั้นที่รอดมาได้ เป็นเซลล์เนื้องอก ที่แข็งแรงกว่าสายพันธุ์เดิมที่แข็งแรงอยู่แล้ว

คราวนี้มันได้ชุดสูทราคาถูกและศึกษากฏหมายการก่อสร้าง แกล้งทำเป็นทนายความเพื่อเริ่มสร้างเมืองเนื้องอกอีกครั้ง

การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นซ้ำสองสามครั้ง ในแต่ละครั้ง กบฏได้เรียนรู้เพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีหลีกเลี่ยงกฏหมาย

หากถึงจุดใดก็ตามที่ระบบภูมิคุ้มกัน ทำลายเซลล์เนื้องอกได้หมด เรื่องนี้ก็จะจบลง

แต่ในกรณีนี้ มันไม่ใช่แบบนั้น

ในที่สุด เซลล์เนื้องอกจะเปลี่ยนไปในทางที่ทำให้เกิดอันตราย ซึ่งก็คือมะเร็ง

เป็นประเภทที่ฆ่าคน แต่เป็นได้อย่างไรล่ะ?

เซลล์ภูมิคุ้มกันมีสวิตซ์ปิดการทำงานเซลล์ก่อนที่จะโจมตีได้

ซึ่งโดยหลักการแล้วมันเป็นความคิดที่ดี

ระบบภูมิคุ้มกันเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และในหลายกรณีจำเป็น ต้องปิดการทำงาน เช่น บริเวณรอบๆ ระบบประสาทส่วนกลาง

แต่สวิตซ์ปิดตัวนี้สามารถถูกเอาเปรียบได้

เซลล์เนื้องอกที่กลายพันธุ์พบวิธีปิดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยกำหนดเป้าหมายไปที่ตัวรับสารยับยั้งบนเซลล์ต่อต้านมะเร็ง

ตัวรับสารยับยั้งจะหยุดเซลล์ภูมิคุ้มกันจาก… การฆ่า

เซลล์นี้เป็นรากฐานของสายพันธุ์ใหม่ ของเซลล์มะเร็งที่มีประสิทธิภาพ

และทำให้เกิดสำเนาใหม่หลายพันสำเนาที่จะเปลี่ยนแปลง และกลายพันธุ์ต่อไปอีก และสร้างเมืองเนื้องอกอีกแห่ง

3. The Escape Phase

เซลล์มะเร็งใหม่มีภูมิคุ้มกันต่อระบบภูมิคุ้มกัน และทำงานทุกอย่างต่างออกไปในครั้งนี้

เมืองเนื้องอกได้สร้างขึ้นใหม่ มันทั้งน่าเกลียดและแปลกกว่าเดิม แต่ตอนนี้สภาเมืองมะเร็งได้ปลอมแปลงใบอนุญาตทุกประเภท

เมื่อผู้ตรวจสอบอาคารมาปิดการก่อสร้าง พวกเขารู้สึกสับสน

พวกเขางงและเดินออกมา ไม่สามารถสั่งให้ทำลายอาคารที่กำลังขยายออกไปได้

ตำรวจพยายามเข้าไปในเมืองที่ผิดกฎหมาย เพื่อจับกุมผู้สร้างและจัดการกับชาวเมือง

แต่คราวนี้เมืองเนื้องอกได้สร้างสิ่งกีดขวางบนถนน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รักษากฎหมายเข้ามา

เจ้าหน้าที่ยืนสับสนอยู่รอบๆ และทำอะไรไม่ถูก

ขณะที่เมืองเนื้องอกค่อยๆ ปกคลุมเมืองบรุกลิน และมีพลเรือนเสียชีวิตมากขึ้น

ทีมหน่วยสวาททีเซลล์ก็มาถึงเพื่อยุติเรื่องนี้ แต่สิ่งต่างๆ มันแย่กว่าเดิม

เจ้าหน้าที่สายพันธุ์ใหม่ของเมืองเนื้องอก เริ่มปลอมแปลงเอกสารที่สั่งให้ตำรวจยิงหน่วยสวาท

สิ่งที่เซลล์มะเร็งทำอยู่ ณ จุดนี้ คือ กำลังปิดการป้องกันภูมิคุ้มกันโดยการส่งสัญญาณที่เสียหาย

ขณะนี้ไม่สามารถเอาชนะเนื้องอกร้ายได้ และมันเริ่ม สร้างสภาพแวดล้อมมะเร็งขนาดเล็ก เป็นเขตแดนที่ยากจะข้ามไป

ช่องทางการโจมตีทั้งหมดถูกปิดลง และการเติบโตที่ควบคุมไม่ได้ก็เป็นผลตามมา

นี่คือเนื้องอกที่อันตราย

เป็นเซลล์ที่แข็งแรงและสามารถต่อสู้ได้ จะผลักให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณถอยไปและขยายตัวไปเรื่อยๆ

หากเกิดการกลายพันธุ์มากขึ้น เซลล์มะเร็งบางส่วน จะเริ่มสำรวจโลกและขยายไปสู่เนื้อเยื่ออื่นๆ เพื่อสร้างเมืองใหม่

และนี่คือสิ่งที่ทำให้มะเร็งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

มะเร็งกินพื้นที่และขโมยสารอาหารจำนวนมาก จนตัวตนที่แท้จริงของคุณไม่มีที่ว่างให้ทำงานอีกต่อไป

หากเป็นเช่นนี้นานเกินไป อวัยวะต่างๆ จะหยุดทำงาน

แต่กลยุทธ์นี้เป็นจุดจบ ยิ่งมะเร็งประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสร้างความเสียหายให้กับโลกมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อร่างกายตาย มะเร็งก็ตายตาม

มันเป็นเกมที่ไม่มีผู้ชนะอย่างแท้จริง

เว้นแต่ว่า มนุษย์กำลังวางแผนที่จะชนะเกมนี้

ในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์หลายแสนคนกำลังหาวิธีใหม่ๆ ที่ดีกว่าในการกำจัดมะเร็ง ทำลายและเผาเมืองเนื้องอกให้สิ้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก

มันเป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งเซลล์ภูมิคุ้มกันของคุณ จะได้รับการปรับแต่งให้สามารถฆ่ามะเร็งได้ดีกว่าที่ยาใดๆ จะทำได้

มันเหมือนกับการให้ปืนกลและเครื่องพ่นไฟแก่ผู้ตรวจสอบอาคาร

แต่นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

สำหรับตอนนี้มะเร็งเป็นดั่งสนามรบ

แต่ถ้าความเฉลียวฉลาดของมนุษย์นั้นเชื่อถือได้

สักวันหนึ่งอาจเป็นอนาคตอันใกล้นี้ เราจะได้กำจัดมันให้สิ้นซากสักที

วิดีโอนี้เกิดขึ้นได้บางส่วนจากการสนับสนุนโดยตรงของผู้ชม และบางส่วนจากการให้ทุนของ Gate Ventures

ขอบคุณมากๆ สำหรับการสนับสนุน!

โปรดเช็คเอกสารที่มาของเรา สำหรับเบื้องหลังและข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม!

[OUTRO]

translated by anothertemp_