ถ้าจันทร์ตกลงมากระแทกเข้าสู่โลก จะเกิดอะไรขึ้น? | Kurzgesagt

🎁Amazon Prime 📖Kindle Unlimited 🎧Audible Plus 🎵Amazon Music Unlimited 🌿iHerb 💰Binance

วิดีโอ

สรุป

วันนี้เรากำลังตอบคำถาม ทางวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่และสำคัญมาก

ถ้าดวงจันทร์ชนโลกล่ะ?

มันน่าสนใจและแปลกกว่าที่คุณคิดไว้

มาเริ่มกันที่พื้นฐานก่อน

ทำไมดวงจันทร์ไม่พุ่งชนเราอยู่แล้ว?

[INTRO]

เรารู้ว่าแรงโน้มถ่วงของโลกดึงทุกอย่าง เข้าหามัน รวมถึงดวงจันทร์ด้วย

แต่ทำไมมันถึงอยู่ข้างบน ราวกับลอยได้ด้วยแรงตรงข้าม

แต่ไม่มีแรงอะไรมาต้านแรงโน้มถ่วงไว้

เคล็ดลับในการลอยอยู่ได้ คือ การเคลื่อนไหว ‘ไปด้านข้าง’ เรียกว่าวงโคจร

คุณเห็นวงโคจรทุกวันอยู่แล้ว เช่น เมื่อคุณขว้างลูกบอล มันจะโคจรเล็กน้อย

ความต่างเพียงอย่างเดียวระหว่าง วงโคจรของลูกบอลกับดวงจันทร์

คือ ในที่สุดลูกบอลก็จะตกลงพื้น

โดยพื้นฐานแล้ว เหตุผลก็คือความเร็ว

หากคุณสามารถขว้างลูกบอลได้เร็วพอ มันจะโค้งไปทั่วโลกแล้วกลับมาหาคุณ

หากไม่มีอากาศชะลอความเร็ว มันก็อาจจะโคจรไปตลอดกาล

และนี่คือสิ่งที่ดวงจันทร์เป็น

โคจรไปด้านข้างรอบโลกอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีอากาศมาลดความเร็วลง

โคจรรอบโลกทุก 27 วัน ที่ความเร็ว 3600 กม./ชม.

ดังนั้น การที่ดวงจันทร์ จะหยุดโคจรและตกใส่โลก

จะต้องแหกกฎฟิสิกส์ มากกว่าหาเวลามาอธิบาย

แล้วเราจะทำให้มันชนโลกอย่างไร?

โดยสรุป หากต้องการเปลี่ยนวงโคจร ของวัตถุ คุณต้องเปลี่ยนความเร็วของวัตถุ

ซึ่งจะเปลี่ยนตำแหน่งที่แรงโน้มถ่วงรับ

แต่การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ต้องใช้พลังงานมหาศาล

ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้วัตถุขนาดใหญ่ทั้งหมด ในระบบสุริยะมีความเสถียรมากในปัจจุบัน

ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ดวงจันทร์มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร

แม้แต่การจุดเครื่องยนต์จรวด หลายพันล้านเครื่องทั่วทั้งพื้นผิว

ก็แทบจะไม่เคลื่อนดวงจันทร์เลย

ดูเหมือนว่าไม่มีเวทมนตร์ใด ที่จะทำให้ดวงจันทร์ตกลงมา

ดังนั้น เราจะใช้เวทมนตร์

คาถาที่ทำให้ดวงจันทร์ช้าลงมาก จนเปลี่ยนวงโคจรและหมุนวนเข้าหาโลก

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากประสบการณ์นี้ ดวงจันทร์จะใช้เวลา 1 ปี ก่อนที่มันจะชนโลก

พร้อมไหม?

3 2 1

เวทมนตร์!

เดือนแรก

ในช่วงไม่กี่วันแรก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจริงๆ

ดวงจันทร์สว่างขึ้นเล็กน้อย และนักวิทยาศาสตร์เริ่มสงสัย

แต่สำหรับเราส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีอะไรต่างไปจากเดิม

ผลกระทบที่แท้จริงเพียงอย่างเดียว ของดวงจันทร์ที่มีต่อโลก คือกระแสน้ำ

กระแสน้ำมีอยู่ เพราะในขณะที่โลกดึงดวงจันทร์ แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์จะดึงกลับมาที่โลก

เนื่องจากแรงโน้มถ่วงจะอ่อนลงตามระยะทาง ส่วนต่างๆ ของโลกจึงรู้สึกถึงแรงดึงที่ต่างไป

ซึ่งทำให้โลก โดยเฉพาะในมหาสมุทร

โป่งเมื่อดวงจันทร์อยู่เหนือมัน และหดตัว เล็กน้อยเมื่อดวงจันทร์ไม่ได้อยู่เหนือมัน

ขณะที่โลกหมุนรอบข้างใต้ดวงจันทร์ทุกวัน

อิทธิพลของดวงจันทร์จะผันผวน ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและลดลง

ประมาณครึ่งเมตร วันละสองครั้ง

แต่เมื่อดวงจันทร์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ น้ำจะขึ้นสูงทุกวัน

ในตอนแรกแทบจะไม่มีใครสังเกตเลย

ภายในหนึ่งเดือน ดวงจันทร์ได้ครอบคลุม ระยะห่างจากพื้นโลกครึ่งหนึ่ง

และกระแสน้ำในมหาสมุทรได้เพิ่มขึ้นถึง 4 เมตร

ทุกวัน กระแสน้ำจะเคลื่อนซัดท่วมเมืองชายฝั่ง และดูเหมือนจะยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด

เมื่อดวงจันทร์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กระแสน้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ

น้ำท่วมเมืองอื่นและพื้นที่ที่มีคน อาศัยอยู่มาก ด้วยน้ำเค็มในทุกๆ วัน

เดือนที่ 2

ภายในสิ้นเดือนที่ 2 ดวงจันทร์ได้ครอบคลุม ระยะทางถึง 2 ใน 3 ของระยะทางสู่โลก

และโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกก็พังทลาย เมื่อกระแสน้ำท่วมสูงกว่าสิบเมตร

ส่งผลให้คนหลายพันล้านคน ที่อยู่ใกล้ชายฝั่งต้องพลัดถิ่น

เนื่องจากท่าเรือต่างๆ ใช้งานไม่ได้ การขนส่งจึงต้องหยุดชะงัก

ไม่เพียงแต่จะชะลอการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ของ kurzgesagt

แต่ยังรวมถึงสิ่งที่น่าตื่นเต้นน้อยกว่า อย่างเช่น อาหารอีกด้วย

การสื่อสารทั่วโลกตกอยู่ในความระส่ำระส่าย

95% ของอินเตอร์เน็ต ใช้สายเคเบิลข้ามมหาสมุทร

และในขณะที่ส่วนใหญ่ไม่ได้กังวลเรื่องน้ำ แต่ปลายทางบนบกไม่ได้เป็นเช่นนั้น

การอาศัยอยู่บนบกไม่ได้การันตีว่าจะปลอดภัย

น้ำขึ้นน้ำลงทำให้แม่น้ำไหลย้อนกลับ

ทำให้น้ำเค็มเข้ามาปนเปื้อน กับพื้นผิวและแหล่งน้ำใต้ดิน

ปัญหาการขาดแคลนก๊าซก็ตามมา เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันแถบชายฝั่งถูกทิ้งร้าง

ประเทศต่างๆ เหลือแค่สินค้าบนชั้นวาง และเริ่มมีการปันส่วนอย่างเข้มงวด

ในเมือง ความโกลาหลครอบงำในช่วงที่น้ำลง ขณะที่ผู้รอดชีวิตหลบภัยในที่สูงเมื่อน้ำมา

เดือนที่ 3

สามเดือนผ่านไป และดวงจันทร์อยู่ใกล้พอ ที่จะรบกวนการสื่อสารและดาวเทียมนำทาง

แม้ว่าโดยปกติแล้ว มันไกลเกิน กว่าที่แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์

จะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับดาวเทียมของเราได้

แต่ยิ่งใกล้เท่าไหร่ วงโคจร ของดาวเทียมก็ยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้น

เมื่อเชื้อเพลิงสำหรับการแก้ไขวงโคจร หมดลง ดาวเทียมก็ควบคุมไม่ได้

เดือนที่ 4 - 5

บนโลก กระแสน้ำเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วถึงประมาณ 30 เมตร

และจะสูงถึง 100 เมตรในไม่กี่สัปดาห์สั้นๆ

ในช่วงน้ำลง มหาสมุทร ลดระดับลงไปหลายร้อยกิโลเมตร

ทำให้ไหล่ทวีปเหมือนทะเลทรายอันกว้างใหญ่

ขณะที่กำแพงน้ำสูงเข้าท่วม พื้นที่เกษตรกรรม บ้าน และตึกระฟ้า

และตอนนี้ ผ่านไปเกือบ 5 เดือน วันสิ้นโลกก็เสร็จสิ้นการวอร์มอัพแล้ว

เนื่องจากมหาสมุทรมีความลึก โดยเฉลี่ยเพียง 3 กิโลเมตร

กระแสน้ำได้เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดแล้ว

จนถึงตอนนี้ น้ำในมหาสมุทรสามารถไหล ดูดซับแรงดึงดูดของดวงจันทร์ได้เกือบทั้งหมด

แต่ตอนนี้โลกเองก็สัมผัสได้ถึง แรงบีบของดวงจันทร์ที่ใกล้เข้ามา

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กระแสของ ‘น้ำ’ แต่เป็นกระแสของ ‘หิน’

การบีบตัวของดาวเคราะห์รวมกับ น้ำหนักของน้ำหลายล้านล้านล้านตัน

ที่ซัดเข้าและออกจากแผ่นเปลือกโลก

ทำให้เกิดความเครียดมหาศาลที่ด้านล่าง และทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดรุนแรงขึ้น

เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าแผ่นดินไหว รุนแรงแค่ไหนหรือเกิดขึ้นที่ใด

แต่มันเหมือนกับเด็ก กระโดดขึ้นไปบนเตียงจนเตียงหัก

ไม่มีอะไรดีตามมา

แรงไทดัลที่รุนแรงทำให้เกิดภูเขาไฟ บนดาวเคราะห์และดวงจันทร์ดวงอื่น

บนโลก การบีบอัดดาวเคราะห์จะรบกวน แหล่งกักเก็บแมกมาภายในเปลือกโลก

ทำให้เกิดการปะทุขนาดใหญ่

เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในชิลี นิวซีแลนด์ เยลโลว์สโตน และที่อื่นๆ

ในขณะเดียวกัน ก็เฝ้าดูดวงจันทร์บนท้องฟ้าอย่างอดทน

ถึงอย่างนั้นดวงจันทร์ก็ไม่ได้ใหญ่ ไปกว่าก้อนเมฆก้อนเล็กๆ บนท้องฟ้า

ภายในรัศมีจากโลก 75,000 กม.

มันจะสว่างพอที่จะทำให้ท้องฟ้า ยามค่ำคืนสว่างไสวราวกับพลบค่ำ

เดือนที่ 6 - 7

ผ่านไปครึ่งปี ดวงจันทร์จะเข้าสู่พื้นที่ ที่ครั้งหนึ่งดาวเทียม geosynchronous

จะโคจรรอบโลกทุกๆ 24 ชั่วโมง

ดวงจันทร์ดูเหมือนว่าจะลอย อยู่ที่จุดหนึ่งบนท้องฟ้า ไม่เคลื่อนไหว

วนรอบโลกทุกๆ วัน แต่เห็นแค่ เพียงครึ่งหนึ่งของดวงจันทร์เท่านั้น

เมื่อดวงจันทร์ ‘หนุดนิ่ง’ เหนือพื้นโลก กระแสน้ำเหมือนจะหยุดนิ่งอยู่กับที่

ครึ่งหนึ่งของโลกถูกน้ำท่วม อีกครึ่งดูเหมือนน้ำกลับสู่ทะเล

ราวกับว่าโลกกำลังกลั้นหายใจ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด

ขณะที่ดวงจันทร์กำลังจมลง คุณอาจ สงสัยว่าแรงโน้มถ่วงของมันจะเอาชนะโลก

ดึงคุณขึ้นไปในอวกาศ และยุติความเดือดร้อนของคุณหรือไม่?

โชคดีที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

แรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลกนั้น แรงกว่าดวงจันทร์ประมาณ 6 เท่า

ดังนั้นแม้ว่าดวงจันทร์จะโคจรอยู่เหนือ หัวของคุณ คุณก็ยังคงอยู่บนพื้นดิน

บนดวงจันทร์ สิ่งต่างๆ นั้นไม่เหมือนกัน

ด้านใกล้ของดวงจันทร์ได้รับผลกระทบ จากแรงโน้มถ่วงของโลกมากขึ้น

ดังนั้นในช่วงไม่กี่เดือนต่อจากนี้ ดวงจันทร์จะเริ่มขยายไปข้างหน้าสู่พื้นโลก

กลายเป็นบางสิ่งที่เหมือนกับไข่

ทำให้เกิดแผ่นดินไหวระดับลึกบนดวงจันทร์ ขณะที่หินดวงจันทร์โค้งงอและเปลี่ยนรูปร่าง

แม้ว่าตอนนี้จะยังมองไม่เห็น แต่การบีบนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยกิโลเมตรในไม่กี่เดือน

เดือนที่ 8 - 11

เมื่อถึงจุดนี้ วันสิ้นโลกได้มาถึงแล้ว

และเราสามารถสรุปได้ว่า หนึ่งเดือนก่อนที่จะเกิดการชน

ว่า “ทุกคนที่เหลือจะมีช่วงเวลาที่เลวร้ายจริงๆ”

กระแสน้ำพัดผ่านโลกช้าลงและย้อนทิศทาง

เนื่องจากตอนนี้ ดวงจันทร์ โคจรรอบโลกเร็วกว่าหมุนรอบตัวเอง

โลกจะพบกับแผ่นดินไหว และภูเขาไฟหลายครั้ง

ละอองลอยจากภูเขาไฟจำนวนมหาศาล พุ่งสูงขึ้นสู่ชั้นสตราโตสเฟียร์

เป็นประกายแวววาวเพียงพอที่จะ สะท้อนแสงอาทิตย์กลับไปในอวกาศ

แสงเล็กๆ ที่ลอดเข้ามาจะเป็นสีแดงสนิม และสุริยุปราคารายวันจะลดน้อยลงเป็นระยะ

ผลที่ได้คือโลกเย็นลงอย่างรวดเร็ว มีฝนกรด และหิมะฤดูร้อน ฆ่าแม้กระทั่งพืชที่แข็งแรงที่สุด

เวลาได้หมดลงสำหรับอารยธรรมแล้ว

คนหลายพันล้านคนเสียชีวิต ขณะที่ดวงจันทร์รูปไข่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

มาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับตอนจบที่ยิ่งใหญ่ดีกว่า

เดือนที่ 12

ในที่สุด ณ ช่วงสิ้นปี ดวงจันทร์ได้ถึงขีดจำกัดของโรชแล้ว

นั่นคือจุดที่แรงโน้มถ่วงของโลกบนดวงจันทร์ แข็งแกร่งกว่าแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์เอง

สิ่งต่างๆ บนพื้นผิวดวงจันทร์เริ่มตกลงสู่พื้นโลก

และเมื่อถึงระยะ 10,000 กม. ดวงจันทร์ทั้งดวงจะสลายกลายเป็นซาก

กลายเป็นระบบวงแหวนขนาดมหึมารอบโลก

โชคดีที่การสลายตัวของดวงจันทร์ หมายความว่าความเดือดร้อนบนโลกได้จบแล้ว

ไม่มีดวงจันทร์หมายความว่าธรรมชาติ ของสิ่งต่างๆ ในวันสิ้นโลกโดยทั่วไปจะหยุดลง

มหาสมุทรลดลง ไหลออกจากแผ่นดินเป็นครั้งสุดท้าย

ผู้รอดชีวิตทุกคนจะได้เห็นซุ้มโค้ง ขนาดมหึมาทอดยาวไปบนท้องฟ้า

ฉายแสงระยิบระยับท่ามกลางแสงแดด

ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสว ยิ่งกว่าพระจันทร์เต็มดวงครั้งใด

ขณะที่ฝนดาวตกของดวงจันทร์ร่วงเต็มท้องฟ้า

เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ความสงบสุขอาจอยู่ได้ไม่นาน

หากฝุ่นพระจันทร์ตกลงมามากเกินไป การเสียดสีจะทำให้ชั้นบรรยากาศร้อนขึ้น

อาจทำให้มหาสมุทรเดือด

หากไม่เป็นเช่นนั้น เงาขนาดมหึมาที่ล้อมรอบวงแหวน

รวมกับละอองภูเขาไฟและอุกกาบาต จะปิดกั้นแสงแดดมากขึ้น

และช่วงเวลาของการหลบหนี การระบายความร้อนอาจเริ่มต้นขึ้น

ซึ่งจะแช่แข็งพื้นผิวโลกส่วนใหญ่ จนกลายเป็นของแข็ง

เดือนใหม่

ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ในจุดๆ หนึ่ง ผู้คนจะโผล่ออกมาอีกครั้ง

จากเรือดำน้ำ หรือบังเกอร์ หรือบนยอดเขา

พวกเขาจะไม่มีช่วงเวลาที่ดี ก่อนที่จะสร้างอารยธรรมขึ้นใหม่

และไม่รับประกันความสำเร็จของพวกเขา

แต่อย่างน้อยพวกเขาจะพยายามทำเช่นนั้น ด้วยวงแหวนที่สวยงามบนท้องฟ้า

แล้วคุณคำนวณแบบนั้นได้อย่างไร?

คุณแค่ต้องใช้ความบ้าคลั่งและคณิตศาสตร์

หากคุณต้องการปัดฝุ่นด้านคณิตศาสตร์

เพื่อนของเราจาก Brilliant เป็นโค้ชที่เพอร์เฟค ในการเปลี่ยนความอยากรู้เป็นทักษะที่ใช้ได้จริง

Brilliant คือเว็บไซต์และแอปแก้ปัญหา ที่ทำให้วิทยาศาสตร์เข้าถึงได้ในทางปฏิบัติ

มีหลักสูตรเชิงโต้ตอบมากกว่า 60 คอร์ส

เช่น “ความสุขในการแก้ปัญหา” หรือ “การคิดแบบวิทยาศาสตร์”

ที่ให้เครื่องมือคุณในการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์

ในรูปแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับ เล่นเกมมากกว่าทำการบ้าน

บทเรียนต่างๆ จะทำให้คุณประหลาดใจด้วย การเล่าเรื่อง งานเขียนโค้ด และชาเลนจ์โต้ตอบ

โดยพื้นฐานแล้วเป็นอะไรก็ได้ ที่ทำให้คุณสนใจและเพลิดเพลิน

เนื้อหาทั้งหมดเป็นแบบอินเทอร์แอกทีฟ

แทนที่จะแค่อ่านหรือฟังคำอธิบาย คุณสามารถลากและวาง

ปรับแต่งรูปร่างและไดอะแกรม ทำการเลือกและตอบคำถาม

วิธีนี้จะทำให้คุณเรียนรู้บางสิ่งโดยไม่รู้ตัว

และทีละขั้นตอน จะทำให้คุณสร้าง ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ในระยะยาว

และเข้าใกล้เป้าหมาย STEM ของคุณมากขึ้น

หากต้องการมองโลกของ วิทยาศาสตร์จากมุมมองที่แตกต่าง

ไปที่ brilliant.org/nutshell และลงชื่อสมัครใช้ฟรี

และยังมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ชม kurzgesagt

200 คนแรกที่ใช้ลิงก์จะได้รับส่วนลด 20% สำหรับค่าสมัครสมาชิกรายปี

ซึ่งจะปลดล็อกทุกคอร์สของ brilliant ในด้าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์

ที่ kurzgesagt เราชอบที่จะสร้าง สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในตอนแรก

Brilliant สามารถช่วยให้คุณ ได้รับทักษะในการทำสิ่งต่างๆ

ปีนี้ เราจะเปิดตัวพิน รุ่นพิเศษจำนวนจำกัด 3 อัน

อันแรกคือ Moon Crash Pin set สุดแวววาว เปิดพรีออเดอร์เพียง 72 ชั่วโมง

สามารถสั่งซื้อได้ตอนนี้ และไม่มีขายอีก

อย่าลืมจับตาดูพินหมายเลข 2 และ 3 เพื่อสะสมคอลเลกชัน 12,022 ของคุณให้ครบ

[OUTTRO]

translated by Anothertemp_