วิศวกรรมพันธุศาสตร์จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างตลอดไป - CRISPR | Kurzgesagt

🎁Amazon Prime 📖Kindle Unlimited 🎧Audible Plus 🎵Amazon Music Unlimited 🌿iHerb 💰Binance

วิดีโอ

สรุป

นึกภาพถ้าหากว่าคุณมีชีวิตอยู่ในยุค 80 และมีคนมาบอกว่า

ในไม่ช้านี้ คอมพิวเตอร์ จะเข้าไปอยู่ในทุกอย่าง

ตั้งแต่ชอปปิ้งจนถึงออกเดท และตลาดหุ้น

ผู้คนนับพันล้านจะติดต่อ ผ่านเว็บ

คุณจะมีอุปกรณ์ในมือ

ที่มีขนาดเล็ก แต่ศักยภาพ มากกว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์

มันดูเหมือนเหลวไหล แต่แล้วก็เกิดขึ้น

นิยายวิทยาศษสตร์กลายเป็๋นความจริง เราแทบไม่ได้คาดคิด

เราอยู่ในจุดคล้ายคลึงกันวันนี้ แต่เป็นในทางพันธุวิศวกรรม

เอาละมาดูกัน

มันมาจากไหน? เรากำลังทำอะไรอยู่บ้างตอนนี้?

และการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ไม่นานมานี้ ที่จะเปลี่ยนความเป็นอยู่ของเรา

และอะไรที่เราเข้าใจว่าคือ “ปกติธรรมดา” ตลอดมานาน

มนุษย์ได้ออกแบบสิ่งมีชีวิต มานับพันปี ผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์

เราทำให้ลักษณะที่เป็นประโยชน์แข็งแรง ในพืชและสัตว์.

เราทำได้ดีที่เดียว แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามันทำงานอย่างไงจริงๆ

จนกระทั่งเราค้นพบรหัสพันธุกรรม: ดีออกซีไรโบนิวคลีอิค แอซิด, DNA,

โมเลกุลซับซ้อนที่กำหนดทิศทาง การเติบโต การพัฒนาไปทำหน้าที่

และการสืบพันธุ์ของทุกสิ่งมีชีวิต

ข้อมูลถูกเข้ารหัสไว้ใน โครงสร้างของโมเลกุล

นิวคลีโอไทด์สี่แบบจับคู่กัน และสร้างเป็นรหัสคำสั่ง

การเปลี่ยนรหัสคำสั่ง ก็คือเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่มีรหัสที่เปลี่ยนไป

เมื่อดีเอ็นเอถูกค้นพบ คนเราก็หาทางปรับเปลี่ยนมัน

ในช่วงปี 1960 นักวิทยาศษสตร์ยิงรังสี สู่่พืช

ทำให้เกิดการกลายพันธุ์แบบสุ่ม ในรหัสพันธุกรรม

แนวคิดคือเพื่อให้ได้พืช ที่มีประโยชน์หลากหลายโดยวิธีที่อาศัยโชคล้วนๆ

บางครั้ง มันก็สำเร็จ

ในยุค 70 นักวิทยาศาสตร์ใส่ชิ้นส่วนดีเอ็นเอ เข้าไปในแบคทีเรีย พืช และ สัตว์

เพื่อศึกษาดัดแปลงมันในงานวิจัยทางยา การเกษตร และ มีทั้งลองเล่นๆ

สัตว์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม เกิดในปี 1974,

ทำให้หนูกลายเป็นเครื่องมือมาตรฐาน ช่วยชีวิตนับล้านชีวิต

ในยุค 80 เราได้ขยายไปในทางการค้า

สิทธิบัตรแรกคือจุลินทรีย์ ดัดแปลงพันธุกรรมให้ดูดซึมน้ำมัน

ทุกวันนี้ เราผลิตสารต่างๆ โดยการดัดแปลงสิ่งมีชีวิต

อย่างเช่น สารทำให้เลือดแข็งตัว, ฮอร์โมนเพื่อการเติบโต และ อินซูลิน

ทั้งหมดนั้น ก่อนหน้านี้ เราต้องไปเอา มาจากอวัยวะของสัตว์

อาหารดัดแปลงพันธุกรรมออกขาย ขายในปี 1994: มะเขือเทศ Flavr Savr

มะเเขือเทศที่เก็บแล้วสดได้นาน

โดยการใส่ยีนส์พิเศษที่ไปกด การสร้างเอนไซม์ที่ทำให้มะเขือเทศเน่า

แต่อาหารดัดแปลงพันธุกรรมและข้อถกเถียงเกี่ยวกับมัน เราจะไม่พูดในวีดีโอนี้

ในช่วงปี 1990’s มีการเข้าไปสู่ การดัดแปลงพันธุกรรมมนุษย์

เพื่อรักษาความเป็นหมันของแม่ ได้สร้างทารก

ที่มีข้อมูลทางพันธุกรรม จากมนุษย์สามคน

ทำให้เกิดมนุษย์ ที่มีรหัสทางพันธุกรรมจากพ่อแม่รวมกันสามคน

ทุกวันนี้ มีหมูที่มีกล้ามมาก แซลมอนที่โตเร็ว

ไก่ไร้ขน และกบใส

ในด้านความบันเทิง เราสร้างสิ่งมีชีวิต เรืองแสงในที่มืด

ปลาม้าลายเรืองแสง ราคาต่ำกว่าสิบดอลลาร์

ทั้งหมดนี้ ช่างน่าประทับใจ แต่ เมื่อไม่นานมานี้

การตัดต่อยีนส์ที่เคยแพงมหาศาล ซับซ้อน และ ใช้เวลาทำนาน

ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬาร ด้วย เทคโนโลยีใหม่:

CRISPR

ชั่วข้ามคืน ค่าใช้จ่ายของการทำพันธุวิศวกรรม ได้ลดลงราว 99%

แทนที่จะใช้เวลาเป็นปี กลายเป็นใช้แค่หลายสัปดาห์ เพื่อที่จะทำการทดลองหนึ่ง

และดูเหมือนทุกคนที่มีแลป สามารถทำได้

มันยากที่จะบอกว่า การปฏิวัติด้วย CRISPR มันมีมากมายแค่ไหน

มันมีศักยภาพมากที่จะ เปลี่ยนมนุษยชาติไปเลย

ทำไมจึงเกิดการปฏิวัติฉับพลันของเทคโนโลยีนี้ และมันทำงานได้อย่างไร?

แบคทีเรียและไวรัสได้ต่อสู้ ตั้งแต่แรกเริ่มการเกิดสิ่งมีชีวิต

แบคทีริโอฟาจ หรือ ฟาจ ล่าแบคทีเรีย

ในมหาสมุทร ฟาจได้ฆ่า 40% ของมัน ในทุกวัน

ฟาจใส่ชิ้นส่วนรหัสพันธุกรรม ของมันเข้าสู่แบคทีเรีย

และเข้าควบคุมแบคทีเรียbr]ในฐานะโรงงานให้มัน

แบคทีเรียพยายามขัดขืน แต่ก็ล้มเหลวซะส่วนมาก

เพราะเครื่องมือการป้องกันตัวของแบคทีเรียอ่อนแอไป

แต่บางครั้ง แบคทีเรียรอดจากการโจมตี

ถ้าหากว่ามันรอด ดังนั้นมันจะมสามารถมี ระบบป้องกันไวรัสที่มีประสิทธิภาพ

มันเก็บชิ้นส่วนของดีเอ็นเอไวรัส

ไว้ในรหัสพันธุกรรมของมันเองในดีเอ็นเอที่เก็บ เรียกว่า CRISPR.

ทีนี้ มันเก็บเอาไว้ จนกระทั่งถึงคราวจำเป็น

เมื่อไวรัสโจมตีอีกครั้ง แบคทีเรียสร้างสำเนา RNA อย่างรวดเร็ว

จากดีเอ็นเอที่ได้เก็บไว้ และกลายเป็น อาวุธลับ คือ โปรตีน Cas9

โปรตีนจะทำหน้าที่สแกนหาไวรัสผู้บุกรุก ข้างในตัวแบคทีเรีย

เปรียบเทียบทุกลำดับดีเอ็นเอที่มันเจอ กับตัวอย่างที่ได้เก็บไว้

เมื่อมันเจออันเหมือนเป๊ะ

มันจะทำงานตัดไวรัสดีเอ็นเอ ทำให้ใช้การไม่ได้

เป็นการปกป้องแบคทีเรีย จากการถูกโจมตี

ความพิเศษของ Cas9 คือ มันแม่นยำ ยังกะเป็นศัลยแพทย์ของดีเอ็นเอเลยทีเดียว

การปฏิวัติทางเทคโนโลยีเริ่มเมื่อนักวิทยาศาสตร์ เข้าใจระบบ CRISPR ว่าสามารถควบคุมได้

เพียงแค่ให้ชิ้นส่วนสำเนา DNA ที่เราต้องการดัดแปลง

และนำระบบใส่เข้าไปในเซลล์มีชีวิต

ถ้าหากว่าเทคนิค การควบคุมทางพันธุกรรม เหมือนแผนที่

CRISPR เหมือนระบบ GPS

นอกจากความแม่นยำ ราคาถูก และง่าย แล้ว

CRISPR ได้ให้ความสามารถที่จะแก้ไขเซลล์ที่มีชีวิต คือ ปิดเปิดการทำงาน

ของยีนส์เป้าหมาย และศึกษา ลำดับดีเอ็นเอที่จำเพาะ

มันได้ผลในเซลล์ทุกชนิด: จุลินทรีย์ พืช สัตว์ หรือ มนุษย์

แต่แม้การปฏิวัติ CRISPR ก็ยังคงใช้สำหรับทางวิทยาศษสตร์

มันยังเป็นเครื่องมือในยุคเริ่มต้น

เครื่องมือที่แม่นยำมากกว่าได้ถูกสร้างขึ้น และถูกใช้อยู่ในขณะนี้

ปี 2015 นักวิทยาศาสตร์ใช้ CRISPR เพื่อตัดไวรัส HIV ออกจากเซลล์มีชีวิต

จากคนไข้ในห้องแลป พิสูจน์ว่ามันมีความเป็นไปได้

เพียงปีถัดมา ก็เกิดโปรเจคขนาดใหญ่

ทดลองกับหนูที่มีไวรัส HIV ในเซลล์ทั้งหมดของตัวหนู

แค่เพียงฉีด CRISPR เข้าสู่หางหนู

มันสามารถเอามากกว่า 50% ของไวรัสออก จากเซลล์ทั่วทังร่างกาย

ในไม่กี่สิบปี ด้วยวิธี CRISPR อาจจะรักษาโรค HIV และโรคจากรีโทรไวรัสอื่นๆ

ไวรัสที่ซ่อนตัวอยู่ใน DNA ของมนุษย์ เช่น เช่น เริม สามารถถูกกำจัดด้วยวิธีนี้

CRISPR อาจจะสามารถเอาชนะ ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุด: มะเร็ง

มะเร็งเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ไม่ยอมที่จะตาย และแบ่งตัวเองไปเรื่อยๆ

ในขณะเดียวกันก็อำพรางตัว จากระบบภูมิคุ้มกัน

CRISPR ได้มอบวิธีที่จะตัดแต่ง ระบบภูมิคุ้มกัน

และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไล่ล่ามะเร็งได้ดีขึ้น

การกำจัดมะเร็ง อาจกลายเป็นเพียงแค่ฉีดเซลล์คุณเองสองสามครั้ง

เพียงสองสามพันเซลล์ของคุณเอง ที่ถูกดัดแปลงแล้วจากห้องแลป

เพื่อที่จะรักษาให้คุณหายดี

การรักษาทางคลินิก โดยวิธี CRISPR ในคนไข้มะเร็ง

ได้รับการรับรองเมื่อต้นปี 2016 ใน US.

ไม่เพียงเดือนถัดมา นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนประกาศว่า

เขาสามารถรักษาคนไข้มะเร็งปอด ด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกัน

ที่ปรับแต่งโดย CRISPR ในเดือนสิงหาคม 2016

สิ่งต่างๆ ก้าวไปอย่างรวดเร็ว

และ โรคทางพันธุกรรม มีมากมายเป็นพันโรค

ตั้งแต่โรคที่สร้างความรำคาญ จนกระทั่งถึงตาย หรือทรมานหลายสิบปี

ด้วยเครื่องมืออันทรงพลังอย่าง CRISPR, เราอาจจะรักษามันได้

มากกว่า 3,000 โรคทางพันธุกรรม มักเกิดโดย ตำแหน่งเบสผิดไปเพียงตำแหน่งเดียวในดีเอ็นเอ

เราสามารถสร้าง Cas9 แบบปรับแต่ง ที่สามารถ

เปลี่ยนลำดับที่ผิดนั้นได้ ซ่อมโรค ในเซลล์เลยทีเดียว

ในอีกสิบยี่สิบปีต่อไป เราคงรักษาโรคได้หลายพันโรคตลอดไป

แต่ทั้งหมดนี้ มีสิ่งเดียวที่เหมือนกัน:

มันจะจำกัดอยู่ที่คนนั้นๆ ไม่ตกทอดไปสู่ลูกหลาน,

เว้นเสียแต่ว่า คุณจะใช้มันที่เซลล์สืบพันธุ์ หรือในทุกๆ เอ็มบริโอ

แต่ CRISPR สามารถทำได้ และ อาจจะถูกไช้เพื่ออะไรมากกว่านั้น:

การสร้างมนุษย์ดัดแปลง ทารกที่ถูกออกแบบและอาจจะแบบค่อยเป็นค่อยไป

แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบไม่ย้อนกลับ สู่ยีนส์พูลของมนุษย์

วิธีการที่จะตัดต่อจีโนมของเอ็มบริโอ ในมนุษย์ได้มีขึ้นแล้ว

แม้ว่าเทคโนโลยี ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น

แต่ก็มีความพยายามทำมาสองครั้ง: ในปี 2015 และ 2016 นักวิทยาศาสตร์ชาวจีน

ทดลองกับเอ็มบริโอมนุษย์ และ ประสบความสำเร็จบางส่วนในครั้งที่สอง

พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เราได้เข้าสู่การตัดต่อยีนส์เอ็มบริโอ

แต่นักวิยาศาสตร์ ยังคงพัฒนามันอยู่

นี่เหมือนเรื่องคอมพิวเตอร์ในยุค 70: ที่มันจะมีคอมพิวเตอร์ที่ดีกว่า

ไม่นับการใช้งานส่วนตัว ในทางพันธุวิศวกรรม มันจะมีผลกระทบต่อคุณอยู่ดี

การตัดแต่งออกแบบมนุษย์สามารดเปลี่ยนจีโนม ของทั้งสปีชีส์ เพราะว่า

ลักษณะที่ตัดแต่งนั่นเอง จะตกทอดสู่ลูก และสามารถแพร่กระจายทั่ว

ทั้งรุ่นและเปลี่ยนแปลง ยีนส์พูล(ความหลากหลายของลักษณะ) ของมนุษย์อย่างช้าๆ

มันอาจเริ่มช้าๆ : ทารกที่ถูกออกแบบ รุ่นแรกอาจจะไม่ได้ถูกปรับแต่งมากเกินไป

ส่วนมากแล้ว พวกเขาจะถูกสร้าง

เพื่อกำจัดโรคทางพันธุกรรมที่ถึงตาย ที่ได้รับตกทอดมาจากครอบครัว

เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า และทำให้ถูกปรับมากขึ้น ผู้คนมากและมากขึ้นอาจจะแย้ง

ว่าไม่ใช้การปรับแต่ง คือ ผิดจริยธรรม เพราะเหมือนเป็นการให้โทษกับเด็ก

โดยทำให้ทรมานทและตายทั้งที่ป้องกันได้ ปฏิเสธการให้ได้รับการักษา

แต่เมื่อไรที่เด็กรุ่นที่ถูกออกแบบ ได้เกิดมา ประตูได้ถูกเปิดออก

และไม่สามารถปิดได้อีกต่อไป

แรกเริ่ม ลักษณะทางพันธุกรรมที่มองว่ายังไม่จำเป็นต้องปรับยังจะไม่โดนแตะ แต่เมื่อมีการตัดแต่งทางพันธุกรรม

ได้ถูกยอมรับแพร่หลาย และความรู้ของเรา ในทางรหัสพันธุกรรมก้าวหน้าขึ้นอีก

ความอยากจะปรับแต่งจะเพิ่มมากขึ้น

ถ้าหากคุณทำให้รุ่นลูก มีภูมิคุ้มกันต่อโรคอัลไซเมอร์

ทำไมไม่ปรับแต่งให้พวกเขา มีเมตาบอลิซึมที่ดี?

ทำไมไม่ปรับให้มีสายตาที่ดี? แล้วความสูงและโครงสร้างกล้ามเนื้อล่ะ?

หัวไม่ล้าน? แล้วถ้าให้ลูกคุณ ฉลาดกว่าเดิม?

การเปลี่ยนแปลงมากมายนี้เป็นผล จากการตัดสินใจส่วนบุคคล

จำนวนหลายล้านคนรวมเข้าด้วยกัน

เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

มนุษย์ปรับแต่งสามารถกลายเป็น มาตราฐานใหม่

แต่เมื่อการปรับแต่งกลายเป็นสิ่งธรรมดา และความรู้ของเราปรับปรุงมากขึ้น

เราอาจจะสามารถแก้ปัญหา ปัจจัยเสี่ยงถึงตายอย่างมากที่สุด: ความชรา

สองในสามของ มนุษย์ 150,000 คน ที่ตายทุกวันนี้ เกิดจากความชราภาพ

ณ ปัจจุบัน เราคิดว่าความชราถูกทำให้เกิดโดย การสะสมความเสียหายสู่ตัวเราเอง

เช่น DNA เสียหาย และระบบที่ ทำการซ่อมมันสึกกร่อนจนเวลาผ่านไป

แต่มันมียีนส์ที่มีผลต่อความชราโดยตรง การรวมกันของพันธุวิศกรรม

และการรักษาวิธีอื่นอาจจะสามาระหยุด หรือยับยั้งการชรา บางทีอาจจะย้อนกลับได้ด้วย

เรารู้จากธรรมชาติว่า มันมีสัตว์ ที่มีภูมิคุ้มกันต่อการแก่ชรา

บางทีเราอาจจะยืม ยีนส์ของมันมาเพื่อเราเอง

นักวิทยาศาสตร์บางคนคิดแม้กระทั้งว่าความชราทางชีวภาพ

จะมีบางสิ่งที่ในที่สุดหยุด การเป็นสิ่งหนึ่ง

เราจะยังคงตายในจุดหนึ่ง

แต่แทนที่จะอยู่ในโรงพยาบาล เมื่ออายุ 90 ปี

เราอาจจะใช้ชีวิตสักสองสามพันปี กับคนที่เรารัก

การวิจัยเข้าไปสู่สิ่งนี้ มันยังเป็นอะไรที่ระยะแรกเริ่ม

และนักวิทยาศาสตร์มากมาย ยังสงสัยอยู่เกี่ยวกับจุดจบของความชรา

ความท้าทายมีมาก และบางทีอาจทำสำเร็จได้ยาก

แต่มันสามารถเข้าใจได้ว่าผู้คนที่มีชีวิต ทุกวันนี้น่าจะเป็นกลุ่มแรก

ที่ได้ประโยชน์จากการรักษาความชราที่มีประสิทธิภาพ

ทั้งหมดที่เราอาจต้องการคือ สักคน ที่จะไปชักชวนมหาเศรษฐีที่ฉลาด

ที่จะทำให้มันเป็นปัญหาถัดไปที่จะแก้

ในสเกลที่ใหญ่กว่า เราสามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่างแน่นอน

โดยการมีประชากรที่ปรับแต่ง

มนุษย์ปรับแต่งอาจจะทำให้รับมือ กับอาหารพลังงานสูงได้

โดยกำจัดไปหลายโรคของยุคนี้ อย่างเช่น โรคอ้วน

การมีระบบภูมิคุ้มกัน ที่ปรับแต่งที่มีคู่มือพร้อมรับมือภัยคุกคามที่เป็นไปได้

เราอาจจะมีภูมิต่อโรค ที่คุกคามเราอยู่ทุกวันนี้

เมื่อไปสู่อนาคตเราสามารถ ปรับแต่งมนุษย์เพื่อให้พร้อม

สู่การเดินทางยาวนานในอวกาศและ รับมือกับสภาวะที่แตกต่างในดาวดวงอื่น

ซึ่งจะมีประโยชน์มาก ในการทำให้เรามีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีสภาพเลวร้าย

ยังมีความท้าทายจำนวนหนึ่งรออยู่ ทางเทคโนโลยี และ ทางจริยธรรม

หลายคนดูคลิปนี้แล้วอาจจะไม่สบายใจ และอาจกลัวว่าเราจะสร้างโลกของเราเอง

ในทางที่จะปฏิเสธมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ และเลือกคุณลักษณะ

บนพื้นฐานที่ว่าอะไรที่ทำให้สุขภาพดี

คือว่า เราอาศัยอยู่ ในโลกนี้

ที่การทดสอบโรคทางพันธุกรรมมากมาย หรือความเสี่ยงต่างๆ

ในผู้หญิงตั้งครรภ์ เป็นมาตรฐาน ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกนี้

บ่อยครั้ง เพียงแค่ความสงสัยถึง ความบกพร่องทางพันธุกรรม สามารถยุติการตั้งครรภ์

อย่างเช่น โรคดาวน์ซินโดรม: หนึ่งใน ความบกพร่องทางพันธุกรรมที่พบมากสุด

ในยุโรป ราว 92% ของการตั้งครรภ์ที่ตรวจพบ ความบกพร่องได้ถูกยุติ

การตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ มีความเป็นส่วนบุคคลอย่างมาก

มันความสำคัญที่จะรับรู้ ถึงความเป็นจริงว่าเราได้ทำการคัดเลือกมนุษย์

โดยอาศัยสภาวะทางการแพทย์

ไม่มีประโยชน์ที่จะทำเป็นว่า สิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลง

ดังนั้นเราต้องกระทำอย่างระมัดระวังและ อย่างเคารพว่า เราทำให้เทคโนโลยีก้าวหน้า

และสามารถทำการคัดเลือกได้มากขึ้น มากขึ้น

แต่ทั้งหมดนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้:

ด้วนศักยภาพอันมหาศาลที่ CRISPR มี และ มันยังไม่ผิดพลาดเลยหรือไม่

การตัดแต่งผิดพลาดยังเกิดขึ้นได้ ตราบใดเท่าที่มีข้อผิดพลาดที่เรายังไม่รู้

ที่สามารถเกิดตรงไหนของ DNA ก็ได้ และ อาจจะไม่ถูกตรวจพบ

การตัดแต่ยีนส์อาจจะ ให้ผลสำเร็จ

หยุดยั้งโรคได้ แต่ก็อาจจะทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์เช่นกัน

เราแค่ยังมีความรู้ไม่มากพอ เกี่ยวกับความซับซ้อนที่เกี่ยวพันธ์กันของยีนส์เรา

ที่จะหลักเลี่ยงสิ่งไม่พึงประสงค์ที่จะเกิดขึ้นได้

การทำให้ถูกต้องเป๊ะ และ ตรวจสอบวิธีการทั้งหลาย คือ ปัญหาใหญ่อยู่

พอๆ กับ การจะเริ่มต้นการทดลองมนุษย์ตัดแต่ง

และเราได้ถกเถียง อนาคตในทางบวก

มันมีมุมมองในทางร้ายด้วย

จินตนาการว่า ถ้าประเทศแบบเกาหลีเหนือ ทำอะไรได้ ถ้าใช้พันธุวิศวกรรม

จะสามารถปกครองแบบเดิมตลอดไป โดยบังคับตกแต่งพันธุกรรมสู่เป้าหมาย?

อะไรจะหยุดยั้งระบอบเผด็จการ

จากการตัดแต่งพันธุกรรมกองทัพ ที่มีทหารแบบขั้นสุดยอด?

มันทำได้หรือไม่ในทางทฤษฎี

กรณีแบบนี้ยัง ห่างไกลมากในอนาคต

ถ้าหากว่ามันกลายเป็นไปได้แล้วจริงๆ

แต่การตรวจสอบทางพื้นฐานเบื้องต้นของแนวคิด ทางพันธุวิศวกรรมแบบนี้มีขึ้นแล้ววันนี้

เทคโนโลยีมีอานุภาพมหาศาล

ในขณะที่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง

ที่ห้ามการตัดแต่งทางพันธุกรรม และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

อาจจะเป็นอะไรที่ตัดสินใจผิดพลาด

การห้ามการตัดแต่พันธุกรรมอาจจะ นำไปสู่การออกนอกประเด็นวิทยาศาสตร์

ไปสู่ที่ที่อำนาจและกฏ ที่เราไม่ค่อยสะดวกใจด้วยนัก

แค่เพียงการร่วมมือกันเราสามารถแน่ใจได้ว่า งานวิจัยในอนาคตถูกนำทางด้วย

เหตุผลอย่างระมัดระวัง ดูแลอย่างดี และ โปร่งใส

คุณรู้สึกอึดอัดใจรึยัง ตอนนี้?

คนเราส่วนมากมักมองพันธุวิศวกรรมในแง่ร้ายๆ

ในอนาคตข้างหน้านี้ เราจะยังได้คงอยู่มั้ย?

เทคโนโลยีเป็นอะไรที่น่ากลัวนึดนึง

แต่เราก็ได้รับประโยชน์จากมันมากมาย และพันธุวิศกรรมอาจจะ

เป็นเพียงขั้นหนึ่งในวิวัฒนาการ ของสปีชีส์ที่ทรงภูมิปัญญาในจักรวาล

เราอาจจะรักษาโรคได้หมด

เราอาจจะขยายช่วงเวลาการมีชีวิต เป็นหลายร้อยปีและเดินทางสู่ดวงดาวอื่น

ไม่เห็นจะต้องคิดแค่แคบๆ เลย เมื่อเราถกเถียงเรื่องนี้

ไม่ว่าคุณมีความเห็นอย่างไรต่อพันธุวิศวกรรม อนาคตก็ใกล้เข้ามาแล้วไม่ว่ายังไงก็ตาม

อะไรที่เคยดูบ้าบอในนิยายวิทยาศาสตร์ กำลังจะกลายเป็นความจริงแบบใหม่

ความเป็นจริงที่เต็มไปด้วยโอกาสมากมาย และความท้าทายไม่สิ้นสุด

วีดิโอแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปาศจากการบริจาคของคุณที่ patreon.com

หากคุณต้องการสนับสนุนการอธิบายที่ เป็นเรื่องซับซ้อนแบบนี้ และบางทีคุณอาจจะ

ได้นกของคุณเป็นการตอบแทน คุณสามารถทำได้ที่นี่ ถ้าคุณ ต้องการรู้เกี่ยวกับ CRISPR เราวาง

แหล่งที่มาและคำอธิบาย สำหรับอ่านเพิ่มเติม วีดิโออื่นเกี่ยวกับทั้งหมด

ของหัวข้อแนวนี้จะตามมา หากคุณต้องการได้รับ การแจ้งเตือนว่ามีวีดิโอใหม่

คุณสามารถติดตามเราได้ที่นี่

บรยายไทยโดย ytuaeb sciencemath

คำบรรยายโดยชุมชน Amara.org