วิดีโอ

สรุป

มนุษย์อย่าเราไม่สามารถจะรับรู้ ธรรมชาติที่แท้จริงของจักรวาลได้

การรับรู้และสมองของเรา สามารถประมวลผลได้เพียงเสี้ยวหนึ่งของมันเท่านั้น

ดังนั้น เราจึงต้องใช้แนวคิดและเครื่องมือ ในการเรียนรู้ความเป็นจริงของธรรมชาติ

กระบวนการทางเทคโนโลยีนั้นไม่เพียง ทำให้ความรู้เกี่ยวกับจักรวาลนี้กว้างขึ้น

มันยังทำให้เราระมัดระวังถึงความเป็นไปได้ที่ไม่แน่นอน

ในอนาคต มันอาจมีความเป็นไปได้ ที่จะจำลองจักรวาลทั้งหมดได้

แต่ถ้ามันเป็นเพียงตัวเลือก แล้วเราจะรู้ได้ไงล่ะว่า มันไม่ได้เกิดขึ้นแล้ว

แล้วถ้าเรา…ไม่ใช่ผู้สร้าง แต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างล่ะ

มีความเป็นไปได้มั้ยที่พวกเราไม่ใช่ของจริง และเราก็ไม่มีทางรู้ได้

ถ้าความเข้าใจในเรื่องฟิสิกส์ของเราถูกต้อง

งั้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำลองจักรวาล ที่มีวัตถุนับล้านล้านอย่างได้

แต่เราก็ไม่ต้องทำแบบนั้นซะทีเดียว

เราต้องการแค่จักรวาลที่เพียงพอ สำหรับการหลอกผู้อาศัยอยู่ของเราเท่านั้น

ปลูกฝังความคิดที่ว่าพวกเขาคือของจริง

ใครล่ะจะต้องการกาแล็กซีนับพันล้าน

พวกเราต้องการแค่พื้นที่ที่ผู้อาศัยของเรา จะได้รับอนุญาตให้ค้นพบเท่านั้น

Jake: จักรวาลอาจเป็นแค่ภาพฉายแบนๆ เท่านั้น และพวกเขาไม่มีทางรู้ได้เลย

แล้วพวกสิ่งเล็กๆ อย่างพวกเซลล์ หรือ แบคทีเรียล่ะ

พวกเราไม่ได้ต้องการมันเลย

ทุกครั้งที่คุณใช้กล้องจุลทรรศน์ สิ่งที่คุณเห็นก็สามารถเกิดได้ทันที

เหมือนกันกับอะตอม เก้าอี้ที่คุณนั่งอยู่ ไม่จำเป็นจะต้องสร้างขึ้นจากอะตอมนับล้านล้าน

เราแค่ต้องการส่วนนอกสุดของมันเท่านั้น

มันอาจกลวงอยู่ จนกว่าคุณจะตัดสินใจผ่ามันออก

ร่างกายของคุณอาจรู้สึกเหมือนเต็มไปด้วยอะไรนิ่มๆ แต่มันอาจว่างเปล่า จนกว่าคุณจะเปิดมันดู

ความจำเป็นอย่างน้อยที่สุดในการจำลองของเรา ก็คือ “ความสำนึกรู้” ของมนุษย์เสมือนจริงของเรา

ผู้อาศัยของเราแค่ต้องคิดเสมอว่าการจำลองนี้เป็นของจริง

โอเค พวกเราคือสื่งที่จำลองขึ้นหรือไม่?

ก็อาจใช่ แต่มันก็มีบางเงื่อนไขที่ต้องเจอ

จริงๆ แล้ว พวกเราก็ไม่ได้มีความรอบรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้นัก ดังนั้น อย่าเพิ่งเชื่อเราไปเสียทั้งหมด

อ้างอิงจากการวิจัยฉบับปรับปรุงใหม่ จากฉบับเดิมที่เขียนโดย Nick Bostrom

เรามี 5 สมมติฐานให้คุณดู

ถ้ามันถูก ท่านผู้ชมที่รัก ท่านกำลังอาศัยอยู่ในโลกจำลอง

สมมติฐานที่ 1

มันมีความเป็นไปได้ที่จะจำลอง “ความสำนึกรู้”

ไม่มีใครทราบว่า “ความสำนึกรู้” คืออะไร

เพื่อวัตถุประสงค์ของการพิจารณานี้ เอาเป็นว่าเราสามารถสร้าง “ความสำนึกรู้” ได้ด้วยการจำลองสมอง

สมองเป็นสิ่งที่ซับซ้อน

Jake: ถ้าคุณลองนับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ระหว่างเซลล์ประสาทเป็นหนึ่งการดำเนินการ

สมองของคุณก็จะทำงานด้วยอัตรา 10 ยกกำลัง 17 หรือ หนึ่งแสนล้านล้านการดำเนินการต่อวินาที

ลองคิดเสียว่าเราต้องการ การดำเนินการ 10 ยกกำลัง 12

เพื่อที่จะจำลอง"ความสำนึกรู้" ของมนุษย์ใน 1 วินาที

แต่เราไม่ได้จะจำลองแค่คนคนเดียว

เราต้องการจำลองประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในคราวเดียว เพื่อเราจะย้อนไปมาได้

เอาว่าเราต้องการจำลองมนุษย์ 200 พันล้านคน ซึ่งมีอายุโดยเฉลี่ยคนละ 50 ปี

1 ปีมี 30 ล้านวินาที คูณกับ 50 ปี

คูณ 200 พันล้านคน

คูณการดำเนินการอีก 10 ยกกำลัง 20

ดังนั้นเราต้องการคอมพิวเตอร์ที่สามารถรองรับ ล้าน,ล้าน,ล้าน,ล้านล้าน,ล้าน,ล้าน การดำเนินการต่อวินาที

การดำเนินการที่มีจำนวนมากกว่า ดาวฤกษ์ใน “เอกภพที่สังเกตได้”

คอมพิวเตอร์แบบนี้มันเป็นไปไม่ได้เลย

เว้นเสียแต่ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เราคิด

สมมติฐานที่ 2

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะไม่หยุดในเร็ว ๆ นี้

ถ้าเราคิดว่าเกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ในลักษณะทำนองเดียวที่มันเป็น

ดังนั้น อาจจะมีกาแลคซีซึ่งประกอบไปด้วยอารยธรรม กับคอมพิวเตอร์ที่มีขุมพลังไม่จำกัดก็ได้

ในระดับเทคโนโลยีที่ขั้นสูงมากๆ ซึ่งแทบจะ ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างมันกับพระเจ้าได้

คอมพิวเตอร์ที่สามารถจัดการล้านๆๆๆๆๆๆ การดำเนินการอย่างจริงๆ

แต่มีแนวคิดคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถจัดการสิ่งนี้ได้จริง

“สมอง Matrioshka” เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่มหึมาทางทฤษฎี

สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนพันล้านชิ้นที่โคจร รอบดาว ใช้พลังงานรังสี

คอมพิวเตอร์ขนาดนี้จะมีขุมพลังมากพอ ที่จะจำลองหลายพันคนได้

ถ้าไม่ใช่หลายล้านคนในเวลาเดียวกัน

เทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ควอนตัม ระดับ high-end ในอนาคต อาจลดขนาดลงอย่างมาก

ดังนั้น อาจเป็นไปได้ที่คอมพิวเตอร์มีโครงสร้างขนาดเท่าเมือง หรือเล็กกว่า

แต่ ในกรณีที่ มีใครสักคนที่อยู่ สร้างคอมพิวเตอร์นี้นะ

สมมติฐานที่ 3

อารยธรรมขั้นสูงไม่ทำลายตัวเอง

หากมีจุดที่อารยธรรมทำลายตัวเอง การอภิปรายทั้งหมดนี้จบลงที่นี่

มองเข้าไปในอวกาศ คุณคาดหวังว่าจักรวาลเต็มไปด้วย อารยธรรมของมนุษย์ต่างดาวนับล้านๆ

แต่เราไม่เห็นจะเจอใครเลย

เหตุผลนี้อาจจะมี “ตัวกรองที่ยิ่งใหญ่”

ตัวกรองที่ยิ่งใหญ่ คือ อุปสรรคในชีวิตที่ต้องเอาชนะ เหมือนสงครามนิวเคลียร์

ดาวเคราะห์น้อย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือกำเนิดหลุมดำ

หากชีวิตคือ การทำลายตนเองโดยสันดาน ดังนั้น ก็ไม่มีการจำลอง (simulation)

เราจะอธิบายรายละเอียดมากขึ้นใน วิดีโอ Fermi Paradox ของเรา

สมมติฐานที่ 4

อารยธรรมขั้นสูงกว่ามากๆ ต้องการที่จะรันแบบจำลอง

เมื่อเราพูดถึงยุคอารยธรรมหลังมนุษยชาติ (posthuman) เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เรากำลังจัดการกับอะไร

เพื่อที่จะคิดว่า เรารู้ว่าอะไรที่มีพลังอำนาจมาก แบบพระเจ้า มักจะหยิ่งทะนง

ลองนึกภาพ มดที่ฉลาดที่สุดในโลกที่ อยู่อาศัยติดกับสวนสนุก

มันอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับมนุษย์ ดังนั้น คุณพยายามที่จะอธิบาย

แต่น่าเสียดายที่มดก็ไม่เข้าใจ

แนวคิดของรถไฟเหาะ และการยืน ต่อแถว และวันหยุด และความสนุก

ไม่ได้เข้าใจได้ สำหรับมดใช้ชีวิตแบบมด

ก็เหมือนกันกับเราและมนุษย์ยุคหลังอารยธรรม

เมื่อเทียบกับพวกเขา เราเป็นมด

รันแบบจำลองเพื่อความสนุกสนาน หรือเพื่อวิทยาศาสตร์ อาจจะเป็นความคิดที่โง่ไร้เหตุผลกับพวกเขา

แต่ ถ้าพวกเขาไม่ต้องการที่จะรันแบบจำลองไม่ว่าเหตุผลใด ๆ ก็ตาม และสมมติฐาน1,2,3 เป็นจริงด้วย

แล้ว จะมีโอกาสไม่เท่ากับ 0 ที่คุณ กำลังอาศัยอยู่ภายในแบบจำลอง

สมมติฐานที่ 5

ถ้ามีการจำลองจำนวนมาก คุณอาจจะอยู่ภายในแบบจำลอง

ถ้ามีอารยธรรมที่ถูกจำลอง เป็นไปได้ว่ามีพวกมันอยู่จำนวนมาก

ท้ายสุด เราคิดว่ามนุษย์ยุคหลังอารยธรรมใช้คอมพิวเตอร์ขุมพลังไม่จำกัดได้จริง

ดังนั้นหากพวกเขารันแบบจำลอง มันคงสะดวก ที่จะรันพวกมันเป็นล้านหรือพันล้าน

หากมีพันล้านจักรวาลจำลอง ก็อาจมี

สิ่งที่มีความสำนึกรู้ที่ใส่ในแบบจำลองนับล้านล้านและล้านล้าน

ซึ่งจะหมายถึงสิ่งที่มีความสำนึกรู้ทุกสิ่งที่เคยมีชีวิตอยู่,

ได้ถูกจำลอง

ดังนั้น สำหรับทุกสิ่งที่มีความสำนึกรู้ที่มีเลือดเนื้อ ก็จะมีอยู่หนึ่งพันล้านการจำลอง

Jake: เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ว่าถ้าเราถูกจำลองอยู่ … หรือไม่,

ในกรณีนี้ โอกาสที่คุณเป็น 1 ใน 999,999,999

เป็นไปได้สูง

ดังนั้น อะไรที่คุณพิจารณาว่าเป็นจริง อาจจะไม่เป็นจริงเลย

คุณอาจจะ …

ถูกจำลองอยู่ จริงๆก็ได้

ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานจำนวนมาก ที่เราไม่สามารถทดสอบจริงๆ ได้ ในขณะนี้

ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์หลายคนไม่เห็นด้วยกับ การทดลองทางความคิดนี้ทั้งหมด

ดังนั้นอย่าเผาบ้านของคุณเพื่อทดสอบเลย ถ้ามันจะมีข้อบกพร่อง

หากคุณถูกจำลองขึ้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากสำหรับคุณ

คุณอาจจะอยู่ในดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่เร่ง เข้าผ่านความว่างเปล่านิรันดร์

หรือแบบจำลองภายในเครื่องคอมพิวเตอร์

การดำรงอยู่ของคุณไม่ได้กลายเป็น ที่น่ากลัวและแปลกประหลาดมากหรือน้อยไปเลย

ทั้งหมดที่เราสามารถหวังว่าจะทำได้ คือ การพยายามมีชีวิตที่ดี และมีช่วงเวลาที่ดี

และหวังว่า ถ้าเราอยู่ในการจำลอง ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์จริง

คงจะไม่มีใครเดินสะดุดสายไฟจนดับละกันนะ

โอ้ โอ้ โอ้ ไม่ ผมคิดว่าผมเพิ่งทำปลั๊กการจำลองหลุด

แต่ ถ้ามันไม่สำคัญล่ะ ถ้าเราอยู่ในการจำลองหนึ่ง ตอนนี้? ถ้าคุณถูกจำลองอยู่?

Jake ที่ช่อง Vsauce3 ไปค้นหาคำตอบเพิ่มที่นั่น

คลิกที่นี่ เพื่อดูวิดีโอของเขา และ สมัครรับข้อมูลช่องของเขา

บรรยายไทยโดย Kittitach Raksakham & ytuaeb sciencemath

รอช้าอยู่ทำไม? ไปยัง Vsauce3 ดูวิดีโอและสมัครสมาชิกกันเลย

เราสัญญาว่า มันคุ้มค่ากับเวลาของคุณ …