ข้อโต้แย้งที่เห็นแก่ตัวเองในการทำให้โลกดีขึ้น - อัลตรูอิสติกอิสติก | Kurzgesagt

🎁Amazon Prime 📖Kindle Unlimited 🎧Audible Plus 🎵Amazon Music Unlimited 🌿iHerb 💰Binance

วิดีโอ

สรุป

ตั้งแต่อดีต จนกระทั่งถึงช่วงก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ประชากรส่วนใหญ่ของโลก เคยทำงานในฟาร์ม

และผลผลิตทั้งหมดของเศรษฐกิจโลก

มาจากผลผลิตทางเกษตรทั้งสิ้น

ผลผลิตเหล่านี้ เคยถูกจำกัดด้วยขนาดของพื้นที่ในการเพาะปลูก

ผลผลิตทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจโลกจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในแต่ละปี

ถ้าเปรียบกับพาย ขนาดของพายถูกกำหนดไว้แล้ว โลกนี้คือเกมที่ต้องมีคนแพ้และชนะ

ในโลกที่ค่อนข้างซบเซา วิธีเดียวที่จะมีความมั่งคั่งกว่าเดิม คือการที่คนอื่นๆ จะต้องจนลง

ถ้าคุณจะเอาพายชิ้นที่ใหญ่ขึ้น คนอื่นๆ จะได้พายขนาดเล็กลง

ถ้าคุณต้องการอาหารมากขึ้น คุณต้องเอาชนะ ปล้น และขโมย วิธีเหล่านี้เป็นกลยุทธที่ดีทีเดียว

ความสูญเสียของเพื่อนบ้านคือผลประโยชน์ของคุณ

นี่คือความเป็นจริงของสรรพสิ่ง ตั้งแต่หลายพันปีมาแล้ว

สังคมต่างรุกรานกันและกัน เพื่อที่จะแย่งพายชิ้นใหญ่ขึ้น

ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐศาสตร์ช่างรุนแรงนัก

บางคนมีพายชิ้นใหญ่เท่าที่ต้องการ ในขณะที่บางคนก็ต้องใช้ชีวิตกับเศษแป้ง

ต่อมา เมื่อมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดขึ้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

เราพัฒนาเครื่องจักร ปรับปรุงพันธุ์พืชที่ดีขึ้น ผลิตปุ๋ยที่ดีกว่าเดิม

เกษตรกรรมก้าวหน้าดั่งจรวด แต่ไม่ได้ผลิตแค่อาหารที่มากขึ้น ทุกหน่วยอุตสาหกรรมทำให้ผลผลิตเหล่านั้นทะลักเลยต่างหาก

ตั้งแต่ ค.ศ. 1700 ถึง 1870 ผลผลิตจากเหล็กในอังกฤษ เพิ่มขึ้นถึง 137 เท่า

การปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้การเพิ่มขึ้นของผลผลิตทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่สามารถจินตนาการได้

สิ่งนี้ได้บิดเบือนลักษณะธรรมชาติความเป็นจริงของสังคม

การเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้เปลี่ยนโลกจากเกมที่ต้องมีคนแพ้และชนะ เป็นเกมที่สามารถมีคนชนะร่วมกันได้

เราได้ค้นพบวิธีที่จะสร้างพายชิ้นใหญ่กว่าเดิม แต่ไม่ใช่แค่ใหญ่ขึ้นนะ แต่พายสามารถขยายได้เองในทุกๆ ปี

คนมั่งมีก็สามารถรวยขึ้นได้อีกในเวลาเดียวกัน

การพัฒนาเช่นนี้กำลังแพร่กระจายและยังคงดำเนินต่อไปในทุกวันนี้

ยาฆ่าเชื้อที่ฆ่าแบคทีเรีย

โรงไฟฟ้าที่ผลิตพลังงาน

โทรศัพท์ที่เชื่อมต่อเราทุกคนด้วยกัน

เครื่องบินที่สามารถพาเราเที่ยวได้ในราคาไม่แพง

ตู้เย็นที่เก็บอาหาร

ความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในทุกๆ หน่วยเศรษฐกิจดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติสำหรับเราในทุกวันนี้

แต่การเปลี่ยนแปลงจากความซบเซา เป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดุเดือดมากในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้อย่างไร?

ในแกนกลางของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มีหัวใจหลักคือการนำไปสู่นวัตกรรม

นวัตกรรมมีหลากหลายความหมาย

แต่ในบริบทของวีดีโอนี้ เราหมายถึงวิธีการแก้ปัญหาที่ดีกว่าเดิม

รวมถึงการแก้ปัญหาที่เราไม่รู้ว่ามันมีปัญหานั้นอยู่

ยิ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมมากเท่าไหร่

ก็ยิ่งเจอปัญหาที่ซับซ้อนและน่าสนใจให้ค้นพบและแก้ไขต่อไปเรื่อยๆ

พลเมืองนอร์เวย์กว่าครึ่งเมื่อ 250 ปีที่แล้ว อาจต้องการรองเท้าดีๆ สักคู่

และ 150 ปีที่แล้ว อาจจะต้องการจักรยานสักคัน

และเมื่อ 80 ปีก่อน พวกเขาอาจต้องการรถ

30 ปีก่อน อาจจะอยากได้ตั๋วเครื่องบินถูกๆ และสิ่งอื่นๆ ในปีต่อๆ มา

เมื่อเราได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เราจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น

เราได้เห็นแล้วว่า เราสามารถปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งๆ ขึ้น ได้อย่างไร

เกมที่มีคนชนะร่วมกันได้ อาจจะมีอยู่เพียง 0.1% ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แต่เรายังคงใช้มันอยู่

มันเป็นผลลัพธ์ที่ดูไม่ค่อยจะเป็นธรรมชาติมากนัก

ในโลกของเกมที่มีคนชนะร่วมกัน

ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดที่มนุษย์ทุกคนบนโลกต้องการคือความมั่งคั่ง

มันเป็นเรื่องดี หากว่ามีคนในพื้นที่ห่างไกล ในประเทศที่คุณไม่รู้จักนัก จะมีความมั่งคั่ง

มีข้อโต้แย้งที่เห็นแก่ตัวแต่ฟังดูฉลาดสำหรับ การทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น

นั่นคือ ในโลกของเกมที่มีคนชนะร่วมกัน ยิ่งคนมั่งคั่ง กันมากเท่าไหร่ ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นเท่านั้น

นั่นเป็นเพราะธรรมชาติของนวัตกรรม

มันเกิดจากการขับเคลื่อนพื้นฐานโดยอุปสงค์และอุปทาน

อุปทานจะเพิ่มขึ้นเมื่อคนมีความอิสระและมีการศึกษา ที่จะเข้ามามีส่วนร่วม

พวกเขาอาจจะเป็นนักประดิษฐ์ นักวิจัย วิศวกร หรือนักคิด ที่มาพร้อมไอเดียใหม่ๆ

และอุปสงค์ของไอเดีย ก็จะเพิ่มขึ้นเมื่อคนร่ำรวยมากขึ้น และมีกำลังจ่ายสำหรับการแก้ปัญหาใหม่ๆ

พวกเขาเพิ่มขนาดของตลาดนวัตกรรม

นวัตกรรม เติบโตตามเงินค่าจ้างที่เป็นแรงจูงใจ

ก็คือ ถ้าหากหลายๆ คนต้องการนวัตกรรม และพร้อมที่จะจ่าย มันก็จะทำให้เหล่านักประดิษฐ์ มีความสนใจและมีพลังสำหรับการสร้างสรรค์

การปรับปรุงชีวิตของคนจน มีผลกระทบอย่างทวีคูณ

มันเป็นการเพิ่มอุปสงค์ของไอเดียไปด้วย และในเวลาเดียวกัน

มันยังง่ายขึ้นสำหรับการผลิตไอเดียใหม่ๆ

ตัวอย่างเช่น การรักษามะเร็ง

ถ้ามีคนหนึ่งพันล้านคนบนโลก มั่งคั่งพอที่จะจ่ายสำหรับการรักษามะเร็ง

นวัตกรรม จะเกิดขึ้นตามอุปสงค์

ดังนั้น เงินกว่าแสนล้านดอลล่าร์จึงถูกใช้ไปในการลงทุนสำหรับการวิจัยในทางการแพทย์

นี่เป็นผลกระทบที่ค่อนข้างใหญ่ แต่จนกระทั่งถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะรักษามะเร็งได้

ทุกวันนี้ หนึ่งในหกคนบนโลก ตายด้วยมะเร็ง และคุณอาจเป็นหนึ่งในนั้น

เอาล่ะ ลองจินตนาการว่าถ้าหากอุปสงค์เพิ่มสูงขึ้นจะเป็นอย่างไร

จินตนาการว่า ไม่ใช่แค่หนึ่งพันล้านคนที่พร้อมจะจ่ายเพื่อรักษามะเร็ง แต่มีมากถึง 4 หรือ 7 พันล้านคนที่พร้อมเปย์

จินตนาการดูว่า การแพทย์จะก้าวหน้าขนาดไหนถ้าเราสามารถลงทุนได้มากกว่าเดิมถึง 7 เท่าเพื่อจะหาทางรักษามะเร็ง

สิ่งที่แฝงอยู่ ก็คือการผลาญศักยภาพของมนุษย์

การทำงานของชาวนาจนๆ ในประเทศกำลังพัฒนา อาจจะไม่มีผลประโยชน์อะไรกับคุณ

แต่หากว่าเขามั่งคั่งขึ้น ลูกๆ ของพวกเขาอาจได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย

พัฒนาสิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ

แทนที่จะมีนวัตกรรมกระจุกตัวอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว

เราจะได้มีนวัตกรรม กระจายตัวอยู่ในทุกๆ ที่ในโลก

ผลงานการวิจัยของมนุษย์ชาติ คงจะมีมากกว่าที่มีตอนนี้หลายเท่าตัว

แล้ว เราจะสามารถรักษามะเร็งได้ไหม หากมันเป็นเช่นนั้นจริง

ก็…อาจจะนะ

ถ้าเรามีการค้นคว้ามากกว่าเดิม 7 เท่า มีคนทำงานมากกว่าเดิม 7 เท่า

และมีเครือข่ายทางการแพทย์ระดับโลก ในอนาคตก็อาจจะเป็นไปได้ มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

และนี่คือใจความของข้อโต้แย้ง:

ยิ่งมีคนต้องการสิ่งเดียวกับคุณมากเท่าไหร่

ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับมัน

นี่คือสิ่งที่เป็นในโลกแห่งเกมที่มีคนชนะร่วมกันได้

คุณจะไม่สามารถมีพายชิ้นใหญ่ขึ้นหากยังมีที่ที่ยังคงจนอยู่

แต่จะได้พายมากขึ้น เมื่อพื้นที่ที่จน เกิดความร่ำรวยเพิ่มขึ้น คนมีส่วนร่วมมากขึ้น และทำให้พายขยายได้มากขึ้น

คุณชอบการท่องอวกาศมั้ย?

ลองจินตนาการว่า คนกว่าพันล้านคนในแอฟริกาและเอเชีย มีโปรแกรมที่จะไปท่องอวกาศสุดหรู

และมีอุปสงค์สำหรับสิ่งจำพวกดาวเทียม, สถานีบนดวงจันทร์, และเมืองในดาวอังคาร

คุณชอบการมีชีวิตรึเปล่า?

คนจำนวนสองสามพันล้านคนกำลังจ่ายเงินเพื่อการค้นคว้าทางการแพทย์ ที่อาจจะช่วยชีวิตคุณได้จริงๆ

และนั่นเป็นผลประโยชน์สำหรับคุณ เมื่อผู้คนทั่วโลกต่างมั่งคั่งขึ้น

ยิ่งเราเข้าใกล้ความเป็นจริงแบบนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อตัวเราเอง

ไม่ว่าแรงบันดาลใจของคุณคืออะไร แต่การที่ได้ทำงาน ในโลกที่ดีกว่าเดิม มันดีจริงๆ นะ

เพื่อทุกๆ คน และเพื่อตัวคุณ

วีดีโอนี้เป็นความร่วมมือของ Max Roser และ Our World in Data

และได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์

ถ้าคุณต้องการสนับสนุนให้เราบินได้ต่อไป และผลิตวีดีโอใหม่ๆ มากขึ้น

คุณสามารถสนับสนุนเราได้ที่ Patreon หรือมาสะสมโปสเตอร์แฟนซีของเราได้

บรรยายไทยโดย เฉลิมเกียรติ เลิศนิติยนาม