วิดีโอ

สรุป

ไม่เคยมีมาก่อนที่ประวัติสาศตร์ของมนุษย์ ร่ำรวยมากขึ้น ก้าวหน้ามากขึ้น หรือทรงพลังมากขึ้น

และรู้สึกหนักใจเมื่อเจอกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว

มันดูเข้าใจในแบบพื้นฐาน

ก๊าซเรือนกระจกกั้นพลังงานจากดวงอาทิตย์แล้วส่งไปยังชั้น บรรยากาศของเรา

สิ่งนี้ทำให้ฤดูหนาวร้อนขึ้น ฤดูร้อนร้อนมากขึ้น

พื้นที่แล้งจะแล้งมากขึ้นและพื้นที่เปียกจะเปียกมากขึ้น

ระบบนิเวศนับไม่ถ้วนจะตายในขณะที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นกินชายฝั่ง และเมืองที่เราสร้างขึ้น

แล้วทำไมเราไม่… หยุดไม่ให้มันเกิดขึ้นล่ะ?

ก็ มันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น

การโต้เถียงสาธารณะเกี่ยวกับ การหยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็วมักเน้นลักษณะ ที่สำศัญบางประการ

เช่น พลังงานถ่ายหิน รถยนต์ หรือวัวเรอ

ดังนั้นการแก้ปัญหาจึงง่าย เช่น ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เรียง ขี่จักรยานไปทำงาน

บางสิ่งบางสิ่งที่ยั่งยืน

และที่สำคัญเลยคือการรับผิดชอบส่วนบุคคล

“คุณ"ควรเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างไรที่จะ หยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว

ซึ่งจะหากันด้วยกันในไม่กี่นาทีต่อจากนี้

นี่คือวีดีโอที่เราอยากให้คุณดูให้จบเพราะว่า

เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทาง เราต้องเข้าใจปํญหา

[อินโทร]

มุมมองแบบเต็ม

สังคมอุสาหกรรมสมัยใหม่ที่เราสร้างขึ้น 150 ปีที่ผ่านมานั้นทำลายถึงเนื้อโลก

เอาง่ายๆเลยคือ ทุกๆอย่างที่เราทำขึ้นเพื่อที่จะทำให้อยู่ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น สบายขึ้น

เป็นตัวทำให้ธรรมชาติแย่ลง

อาหารที่เรากิน ถนนที่เราเดิน เสื้อผ้าที่เราใส่ อุปกรณ์ที่เราใช้ ทางที่

เราไปมา และอุณหภูมิที่เราสร้างรอบตัวเพื่อความพอใจ

ในขณะที่หลายคนให้ความสนใจกับผลกระทบของพลังงาน เนื้อ รถยนต์และเครื่องบิน

ผู้ที่ก่อมลพิษใหญ่นั้นน้อยมากที่จะคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้

มลพิษที่รั่วออกจากหลุมฝังกลบมีปริมาณเท่ากับ

ไอพ่นทั้งหมดในอากาศ

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มาจากบ้านมีมากกว่าจากรถยนต์มารวมกัน

และมลพิษที่ก่อในการสร้างรถยนต์คันใหม่นั้นพอๆกับการสร้างถนนที่ ยาวเพียง 2 เมตร

ซึ่งมันก็ดีที่เปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรหากเรายังสร้างถนน

ในแบบเดิม

แก้ไขระบบอุตสาหกรรมเล็กๆยังไม่พอ

ในแต่ละระบบต้องการแนวทางของมันเองและหลายอย่างนั้นไม่ตรง เสมอไป

แต่ยังไงถึงแม้เรารู้ว่าจะต้องทำยังไง แค่มีแนวทาง ก็ไม่ได้หมายความว่าเราสามารถทำได้

หรือ จะเอามันเข้า

ยังมีพื้นที่สีเทาที่สู้ระหว่างการสู้ของ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ

การแบ่งระหว่างรวยและจน

การปล่อยมลพิษ ปะทะ ความยากจน

มันมีความเกี่ยวข้องอย่างเห็นได้ชัดระหว่างความรุ่งเรืองของประเทศ กับการปล่อยมลพิษคาร์บอน

หรือในอีกคำหนึ่งคือ คนรวยมักทำให้เกิดมลพิษมาก

ดังนั้นการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็ให้คนรวยในโลก เลิกใช้ชีวิตแบบฟุ่มเฟือย

ใช่ไหม?

มันก็คงจะช่วยแต่มันก็ไม่ทำให้ปัญหาหายไป

เพราะว่า 63% ของมลพิษในโลกเกิดจากผู้ที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง

ประเทศที่คนส่วนใหญ่ไม่ใช่ชีวิตแบบฟุ่มเฟือย แต่พยายามที่จะหนีออกจากความจน

และหาชีวิตที่สุขสบายขึ้น

ความจริงคือการที่หนีจากความจนและเป็นคนฐานะปานกลางในขณะนี้

สร้างมลพิษที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นบอกประเทศที่กำลังพัฒนาให้หยุดการปล่อยมลพิษ ก็เหมือนกับพยายามหยุดเขาไม่ให้พัฒนา

มันยากมากที่จะคุยกับประเทศนั้น ควรปกป้องป่าไม้และใช้เงินกับ

แผงโซล่าเซลล์แทนการเผาไม้ ในเมื่อประเทศนั้นไม่สามารถที่จะให้ความต้องการพื้นฐาน

ถึงประชาชน

ดังนั้น ตัดความต้องการเหล่านี้ไม่ค่อยชอบกัน ยิ่งกระทั่งประเทศนั้นรวยขึ้นจากการทำสิ่งแวดล้อมเสียหายในอดีต

จากล้านคน มลพิษมากก็ดีโดยส่วนตัว

เมื่อเราลืมเรื่องพวกนั้นเราก็มักจะนำเสนอแนวทางที่ใช้ไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น คอนกรีต

8% ของมลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์นั้น มากจากอุตสาหกรรมคอนกรีต

โอเค แจ๋ว หยุดใช้คอนกรีตใช่ไหม?

แต่ตอนนี้คอนกรีตมีราคาถูกและเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ในการเติบโตประชากรในประเทศที่กำลังพัฒนาจนถึง

การสร้างบ้านที่พอซื้อได้

และมันก็มีตัวอย่างหลายอย่างที่คลายกัน

แม้กระทั่งประเทศที่่ร่ำรวยก็ยังไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแนวทาง การแก้ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สั่งห้ามการใช่ถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ และน้ำมัน จากพลังงานผสม ก็ได้ช้าลงเพราะการโต้เถียงที่เดือดขึ้นคือเรื่อง

เราควรเอาอะไรแทบที่พวกนั้น?

ประชาชนสามารถที่จะต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ แต่อาจจะตรงกันข้ามกันกังหันลมหรือโซล่าเซลล์

ที่หลังบ้านของพวกเขา

โดยหลักการแล้วปัญหาเหล่านี้สามารถเอาชนะได้แต่ขณะนี้ เราไม่รู้ว่า

จะเอาชนะอย่างไร

ส่วนที่มีปัญหามากที่สุดเลยคืออาหาร

ปลดปล่อย หรือ ตาย

ในเร็วๆนี้เราจะต้องให้อาหารกับประชากรตั้ง10พันล้านคน และเราก็ไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างไรโดยไม่

ปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เพราะว่าธรรมชาติของการผลิตอาหารยุคปัจจุบันที่ต้องใช้ปุ๋ยหรือปุ๋ยคอก

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอาหารแบบปลอดมลพิษ

ข้าวอย่างเดียวปล่อยก๊าซมีเทนอย่างมากในแต่ละปีมีปริมาณเทียบเท่ากับ

การจราจรทั้งหมดในอากาศ

อะไรที่แย่กว่าคืออาหารที่เราชอบมากก็ปล่อยมาก

57% ของมลพิษจากอาหารมากจากประเภทเนื้อ แม้ว่าให้แค่ 18% ของ

แคลอรี่ในโลกและ 37% ของโปรตีน

และผู้คนในโลกยิ่งรวยขึ้นพวกเขาก็อยากได้เนื้อมากขึ้น

อาหารแบบดั้งเดิมในวัฒนธรรมส่วนใหญ่มักเน้นเป็นผักส่วนใหญ่ กับเนื้อนิดหน่อยข้างบน

แต่เมื่อการอุตสาหกรรมการทำฟรามและผลิตเนื้อเข้ามา ทำให้เนื้อเป็นอาหารหลัก

เป็นการปล่อยของประเทศที่พัฒนาแล้วและเป็นสิ่งที่บอก สถานะและความมั่งคั่ง

ในประเทศที่กำลังพัฒนา

ขณะนี้ประมาณ 40% ของพื้นที่ในโลกใช้ในการ ทำการผลิตเนื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง

มีพื้นที่ทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้รวมกัน

พื้นที่นี้เราอาจจะให้ระบบนิเวศเก่าเติบโตใหม่

เช่นป่าอเมซอน และ ดูดคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ถูกแทนที่โดยใช้เป็น

อาหารให้สัตว์

แนวทางที่มีอยู่นั้นมีความสามารถเฉพาะตัว เพื่อให้ทุกคนอยู่ในทางการเมือง

รวย หรือ จน ไม่มีความสุข

เนื้อทำให้มีความรู้สึกสูงและมีจำนวนมากของข้อโต้แย้งที่ยังลอยอยู่

เช่นเปรียบเทียบกับสิ่งที่สร้างมลพิษที่แย่ที่สุด

ในท้ายที่สุดมันก็เห็นได้ว่า กินเนื้อน้อยลงอย่างเดียว ก็ไม่หยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแต่

เราก็ไม่สามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยไม่กินเนื้อน้อยลง

เช่นเดียวกับสิ่งอื่นที่มีความสำคัญ น้อยกว่าต่อการอยู่รอดของเรา แต่ตรงไปตรงมา

มันก็ไม่จริงที่จะให้มันหายไป

เช่นการเดินทางทางอากาศ การขนส่งข้ามทะเล การขุดเหมืองแร่ และการผลิตอุปกรณ์ที่เล่นวีดีโอยูทูป

แล้วนี่หมายความว่าอย่างไร?

เราต้องเลิกใช้ชีวิตในแบบที่เราเคย และคนจนไม่สามารถบรรลุได้?

มีเทคโนโลยีไหนบ้างที่ช่วยเราที่ทำให้เรายังคับรถยนต์คันใหญ่ และกินเนื้อได้ทุกวัน?

แนวทาง ปะทะ ค่าใช้จ่าย

โดยหลักการแล้วเทคโนโลยีนี้มีอยู่แล้ว “Direct Air Capture of CO2” จะจับคาร์บอนไดออกไซด์

จากอากาศแล้วจากนั้นนำไปเก็บที่ใต้ดินหรือเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์

แล้วทำไมเราไม่ติดตั้งให้โรงงานทุกโรงงานและทุกที่ล่ะ?

เพราะว่าด้วยเทคโนโลยีที่เรามีอยู่ จะทำให้ต้องใช้เงินราวๆ สิบล้านล้านดอลลาร์ต่อปี

หรือ GDPครึ่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา

เงินในที่นี้ต้องมาจากที่ไหนและตอนนี้ไม่มีใครให้มัน

แค่เทเงินเข้าเพื่อสิ่งนี้ที่ที่มีมลพิษมาก เช่นโรงถลุงเหล็กและโรงไฟฟ้าถ่ายหิน

จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาเป็น 2 เท่า และหากอุตสาหฏรรมทำงานในที่ มีรายได้จำกัด

ก็จะทำให้ล้มละลาย

ให้รัฐบาลจ่ายเงินให้ก็ดูเหมือนไปได้แต่ทรัพยากรรัฐส่วนใหญ่จริงๆแล้ว

ทำตรงกันข้าม เช่น อุดหนุนน้ำมันและก๊าซ

ซึ่งดุเหมือนตอบโดยสัญชาตญาณ แต่มีแรงจูงใจที่ชัดเจน

โดยทำให้ราคาน้ำมัน ขนส่ง และของใช้ดูเหมือนราคาต่ำ

ซึ่งทำให้มีผลกระทบที่ใหญ่ต่อคนในโลก

ซึ่งสร้างห้องและแรงจูงใจทางการเมือง ที่ต่อวงจรนี้ต่อไปและ

ยากที่จะตัดการผลิตพลังงานฟอสซิล

ในขณะที่ แนวทางที่แพงจากคนห่างไกลปัญหา เช่น ตัวดักรับคาร์บอน พวกเขาก็ดูเหมือนรอได้

เพราะ ในทางเทคนิคตอนนี้ยังไม่มีใครได้รับประโยชน์

บางก็บอกว่าออกจากระบบทุนนิยมคือวิธีที่จะแก้ไขปัญหานี้

บางก็บอกว่าตลาดควรมีเสรีมากกว่านี้ โดยไม่มีการแทรกแซงใดๆ เช่น เงินอุดหนุน

และบางก็แนะนำว่าเราต้องการ"ลดการเติบโต"และเพื่อตัดกลับเป็น

สายพันธุ์โดยรวม

แต่ความจริงแล้วในขณะนี้นั้นไม่มีระบบการเมืองที่ทำงานดีใน การเข้ามาเป็น

ระบบที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงและไม่มีใครเลยที่ทำได้ดีในอดีต

เราก็ไม่ได้มีเวลาที่จะคิดและทำการทดลองมากมาย

เราต้องหาแนวทางที่ต้องใช้เดี๋ยวนี้

ไม่ใช่แค่หยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเดียว ต้องเริ่มลด

ปริมาณของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ

มันสายไปที่จะแค่ใช้วิธีของเรา เราต้องมีความแข็งขันในการแก้ไขปัญหาในอดีต

ในแต่ละปีที่เราเสียเวลา สภาพอากาศที่เลวร้ายจะหลีกเลี่ยงไม่ได้

โอเค

สูดหายใจเข้าลึกๆ

การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็วและโลกที่เราอยู่มันซับซ้อน

แล้วนี่แหละที่"คุณ” ถึงผู้ชม มาอีกครั้งหนึ่ง

“คุณ"แก้ไขมันได้ไหม?

เรื่องของเวลาของเราคือเราทุกคนรับผิดชอบ ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว

นั่นคือ ทุกคนมีบทบาทที่ต้องเล่น

ทำไมคุณไม่ซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า?

ทำไมคุณไม่เปลี่ยนจากเตาแก๊สเป็นเตาไฟฟ้า?

แล้วคุณเคลือบหน้าต่างของคุณเป็นสองเท่า หยุดกินเนื้อและปิดไฟด้วยยัง?

เปลี่ยนความรับผิดชอบจากผู้ปล่อยมลพิษคาร์บอนสู่คนปกติ “คุณ” มัน

ง่ายกว่าการแก้ปัญหาอีก

มันมีโบนัสพิเศษถ้าแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว ขายสินค้าใหม่

ถ้าคุณไม่มีเวลาหรือเงินสำหรับสิ่งนี้คุณควรรู้สึกแย่

มันเป็นข้อความที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะมันเป็นความจริง

วิธีการตัดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์คือการที่คนรวยในโลกหันมาเปลี่ยน

วิธีชีวิตและคนที่ขึ้นมาไม่หาทางขึ้นอีก

ตระหนักสภาพอากาศมากกว่าความสะดวกสบายและความมั่งคั่ง

ถ้าคุณสามารถดูวีดีโอนี้ได้ นี่ก็รวมถึงคุณ

แต่เราก็ได้เห็นการทดลองระดับโลกใน การอยู่บ้าน ไม่ใช้การขนส่ง และ

กินน้อยลงในช่วงไวรัสโคโรนาระบาด

และทั้งหมดที่ทำนั้นลดมลพิษแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ลงเพียงแค่ 7% สำหรับปี 2020

ถามคนที่ปกติมาแก้ปัญหา การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็วจะแตกออก เมื่อเรามาดูระดับ

ของปัญหา

การทำส่วนตัวต่อการลดมลพิษก๊าซเรือนกระจกนั้นดีมาก แต่มันถูกทำให้ด้อยลง

โดยความเป็นจริงเชิงระบบของการปล่อยมลพิษทั่วโลก

เป็นแนวคิดของรอยเท้าคาร์บอนของคุณเองเริ่มได้รับ ความนิยมโดยผู้ผลิตน้ำมัน “BP” ใน

โฆษณาของปี 2005

เถียงได้เลยว่าเป็นหนึ่งในโฆษณาชวนเชื่อ ที่มีประสิทธิภาพและน่ากลัวที่ยังคง

ล่อพวกเราออกจากความจริงในเหตุการณ์

ถ้าคุณกำจัด 100% ของมลพิษของคุณทั้งชีวิต คุณช่วยได้แค่

หนึ่งวินาทีของมลพิษของโลกจากหน่วยพลังงาน

แม้กระทั่งคนที่มีแรงบันดาลใจมากที่สุดยังไม่สามารถทำมันเป็นรอยได้

เมื่อเราใส่ความอันตรายของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว ขั้นของมลพิษ และ

การขาดความฉันทามติว่าจะแก้อย่างไร บทท้าทายก็ดูเหมือนผ่านไม่ได้

มันทำให้การตัดสินใจช้าและอนุญาตที่ถูก ที่มันทำให้คุณไม่รู้สึกแย่เกี่ยวกับการทำตัว

ที่ตรงข้างกับทางที่เป็นประโยชน์

พวกเราติดขัดมานานแล้วกับสิ่งนี้ ซึ่งนี่แหละทำไมการทำวีดีโอนี้จึงใช้เวลานาน

แล้ว

อะไรบ้างล่ะที่คุญทำได้จริงๆ?

มันมีทางหลายทางและพวกเขาได้คุยกันมาแล้ว

เราไม่รู้ว่าใครถูกดังนั้นเราสามารถให้เพียงได้แค่ Kurzgesagt มุมมองและความคิดเห็น

ช่วงความคิดเห็น : คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง?

เราจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีที่แตกต่างในการคิดและพูดเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว

แนวทางที่เป็นระบบที่ครอบคลุมทุกอย่าง น้อยกว่าการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของ

สังคมยุคอุตสาหกรรมยุคใหม่

ในการคุยกันในช่วงที่น่าผิดหวัง ในมุมความรับผิดชอบส่วนบุคคลนั้น เล่นเยอะเกินไป

สำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบในทางเทคโนโลยี การแมือง และ เศรษฐกิจ เราจำเป็นต้อง

ทำให้มีอิทธิพลต่อผู้คนที่คุมคันโยก

นัการเมืองจำเป็นที่จะต้องรู้และรู้สึกที่คนสนใจ ความสำเร็จของพวกเขา

ขึ้นอยู่กับการจัดการกับสภาวะ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว

เมื่อรัฐบาลและนักการเมืองท้องถิ่น ไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนกฎหมายที่ทำให้

มีผลกับการเก็บภาษีและการรับบริจาค เราต้องลงโหวตให้ออก และโหวตให้คนที่

ให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์

เราจำเป็นต้อง ถือว่าพวกเขามีความรับผิดชอบ ในการใช้กลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ไม่เสียเวลาของเราให้เช่นกับการสั่งห้ามหลอดพลาสติก เราต้องสับคันโยกอันใหญ่

อาหาร การขนส่งและพลังงานในขณะที่ไม่ลืมสิ่งเล็กเช่น ซีเมนต์ หรือ

การก่อสร้าง

เมื่ออุตสาหกรรมสู้กับการเปลี่ยนในวิธีของเขาเพื่อไม่ให้เสียหายหรือปกป้องตัว

ของเขาเอง เราจำเป็นต้องมีนักการเมืองที่เปลี่ยนกฎหมาย และกระตุ้นในการพัฒนา

เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วและลงทุนมหาศาลในนวัตกรรมที่จะใช้งานจริงในที่

ยังไม่มีแนวทางที่ดีเยี่ยม

มันไม่มีเหตุผลที่จะได้ผลประโยชน์ของอุตสาหกรรม ไม่ตรงกับความต้องการในการ

ลดระดับมลพิษของคาร์บอนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

และถ้าพวกเขายังไม่ทำตามการลงโทษและข้อบังคับต้องใช้ หรือ

ทำให้ล้มละลาย

มันก็ดูไม่สมจริงนั้นเปลี่ยนจุดไปเล็งไปที่เศรษฐกิจโลก

เร็วพอ เพราะเทคโนโลยีที่คาร์บอนต่ำยังต้องใช้เวลาในการศึกษา ซึ่ง

ซึ่งก็หมายความว่าจะมีราคาสูง

แต่บริษัทจะทำให้ตัวดักจับคาร์บอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื้อแบบอื่นมีรสชาติดี

แบตเตอรี่ที่ดีกว่า ซีเมนต์แบบอื่น และอื่นๆ ถ้ามันเห็นได้ชัดและมีความต้องการ

และถ้คุณรวยพอคุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งโดยการลงทุนสิ่งนี้

ตอนนี้ในขณะที่มันยังราคาสูงอยู่

นี่คือกลไกที่จะทำให้ราคาต่ำลงต่อไป

ก็นี่แหละที่คุณสามารถทำได้

โหวตด้วยคะแนน โหวตด้วยกระเป๋าตังค์

มันมีมากที่สนใจแบบแตกต่างและซับซ้อนในพื้นที่สีเทา

ในท้ายที่สุดถ้าเราได้รับการปรับเปลี่ยนระบบจริงๆ ทุกคนก็จะไม่มีความสุขเกี่ยวกับ

บางอย่างของมัน

อย่างเดียวถ้าเรายอมรับว่าบางแนวทางจะส่งผลต่อเรา

เราสามารถคุยกันแบบจริงจังและเริ่มทำเลย

ทุกคนจะไม่มีความสุขนิดหน่อย

และมันก็โอเค

นี่คือสิ่งทีดีที่สุดที่คุณทำได้

คุณจัดการกับสถานการณ์ที่อยู่ในชีวิตจริง และแสดงความสำคัญจากการกระทำ

และขณะที่คุณทำคุณสามารถกินเนื้อน้อยลง บินน้อยลง หรือใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

ไม่เพราะว่าคุณควรรู้สึกผิดถ้าคุณไม่ทำหรือ เพราะว่าคุณคนเดียวนั้น

คุณไม่สามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว แต่ทำจุดที่เล็กที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลงระบบ

วีดีโอนี้สนับสุนนโดย Gate Notes เป็นบล็อกส่วนตัวของ bill gates ที่เขาเขียน

เกี่ยวกับ สุขภาพโลก การเปลี่ยนแปลงส๓าพอากาศ และอื่นๆ

เยี่ยมชม gatenotes.com เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับ วิธีที่โลกสามารถทำงานด้วยกันเพื่อที่จะให้

ไม่มีมลพิษแก๊สเรือนกระจก หรือใช้ลิงค์ข้างล่าง

และเพื่อความโปร่งใส ถ้าคุณอยากเรียนรู้อีกเกี่ยวกับ วิธีการที่เรารับมือกับสปอนเซอร์

เหมือนกับอันนี้ เราก็มีบทความที่บอกว่าเราทำอย่างไร

ขอบคุณที่รับชม Note:that translation might be broken a bit since some words have errors while translating to thailand