การฟรักกิ้ง: โอกาสหรืออันตราย | Kurzgesagt

🎁Amazon Prime 📖Kindle Unlimited 🎧Audible Plus 🎵Amazon Music Unlimited 🌿iHerb 💰Binance

วิดีโอ

สรุป

Hydraulic fracturing หรือ Fracking คืออะไร

ตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมมานั้น การบริโภคพลังงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยพลังงานส่วนใหญ่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลจากถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติ

ไม่นานมานี้มีการพูดคุยและการถกเถียงอย่างมากมายเกี่ยวกับวิธีที่จะสกัดก๊าซธรรมชาติออกมา นั่นคือ

วิธีการ Hydraulic fractuiring หรือ fracking

เอาล่ะ Fracking นั้นอธิบายถึงการกู้คืนก๊าซธรรมชาติจากใต้ดินชั้นลึกๆของโลก

ด้วยวิธีนี้ ก้อนหินที่มีรูพรุนจะแตกร้าวโดยใช้ประโยชน์จากน้ำ ทราย และสารเคมี

เพื่อปลดปล่อยก๊าซธรรมชาติที่ถูกห่อหุ้มไว้ออกมา

เทคนิคการ fracking นี้เป็นที่รู้จักตั้งแต่ช่วงปี 1940

ถึงอย่างไรก็ตาม ในสิบปีล่าสุดเท่านั้นที่การ fracking ค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมาก

โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

เนื่องจากแหล่งก๊าซธรรมชาติทั่วไปในอเมริกาและทวีปยุโรปนั้นถูกใช้จนหมดเแล้ว

ดังนั้นราคาของก๊าซธรรมชาติและเชื้อเพลิงอื่นๆ จึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

วิธีที่มีราคาแพงและมีความซับซ้อนสูงอย่าง fracking จึงเป็นที่นิยมและได้ผลประโยชน์

ในขณะเดียวกันการ fracking ถูกใช้มากกว่าล้านครั้งเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

มากกว่า 60% ของบ่อน้ำมันและก๊าซใหม่ถูกขุดเจาะโดยการ fracking

ทีนี้ เรามาดูกันเถอะว่าการ fracking นั้นทำงานอย่างไร

เริ่มแรก ใช้สว่านเจาะพื้นโลกลงไปหลายร้อยเมตร

จากนั้น เจาะรูตามแนวนอนเข้าสู่ชั้นของหินห่อหุ้มก๊าซไว้อยู่

ต่อไป ของเหลวจาก fracking จะถูกสูบฉีดเข้าไปในพื้นโดยเครื่องปั๊มน้ำทรงประสิทธิภาพ

โดยเฉลี่ยแล้ว ของเหลวจะประกอบด้วยน้ำปริมาณ 8 ล้านลิตร

ซึ่งเป็นปริมาณที่ใช้ประจำวันสำหรับประชาชน 65,000 คน

นอกจากนั้นยังประกอบด้วยทรายหลายตัน และสารเคมี อีกประมาณ 200,000 ลิตร

ส่วนผสมเหล่านี้แทรกซึมเข้าไปในชั้นหินและสร้างรอยแตกเล็กๆขึ้นนับไม่ถ้วน

ทรายจะกันรอยแตกไม่ให้ปิดตัวลงอีกครั้ง

สารเคมีจะทำงานหลายอย่าง

เหนือสิ่งอื่นใด พวกมันทำให้น้ำจับตัวกันมากขึ้น

กำจัดแบคทีเรีย

หรือละลายแร่ธาตุ

จากนั้นของเหลวส่วนใหญ่ของ fracking จะถูกสูบออกมาอีกครั้ง

และในตอนนี้เองที่ก๊าซธรรมชาติถูกกู้คืนออกมา

ในทันทีที่แหล่งก๊าซหมด รูที่เจาะก็จะถูกปิดผนึก

ตามกฏแล้ว ของเหลว fracking จะถูกสูบกลับเข้าไปในใต้ดินชั้นลึกๆและปิดผนึกไว้ในนั้น

อย่างไรก็ตาม fracking นั้นค่อนข้างมีความเสี่ยงหลายประการด้วยกัน

ความเสี่ยงหลักๆก็คือ การปนเปื้อนในแหล่งน้ำดื่ม

Fracking ไม่เพียงแต่ใช้น้ำปริมาณมากอย่างฟุ่มเฟือยเท่านั้น

แต่ยังเป็นผลทำให้น้ำมีสิ่งปนเปื้อนและมีความเป็นพิษสูง

สิ่งปนเปื้อนนั้นมีความรุนแรงถึงขนาดที่ว่าไม่สามารถทำให้บริสุทธิ์ได้ในโรงงานบำบัด

ถึงแม้ว่าจะรับรู้ทุกความอันตรายและในทางทฤษฎีแล้วสามารถจัดการได้

แหล่งน้ำที่มีอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีสิ่งปนเปื้อนเพราะความเพิกเฉย

ยังไม่มีใครรู้ว่าแหล่งน้ำปิดจะมีบทบาทอย่างไรในอนาคต

ตราบใดที่ยังไม่มีการศึกษาระยะยาวเกี่ยวกับหัวข้อนี้

สารเคมีที่ใช้ในการ Fracking นั้นมีตั้งแต่สารที่อันตรายจนถึง

พิษร้ายแรงและสารก่อมะเร็ง เช่น เบนซอล หรือ กรดฟอร์มิก

บริษัทที่ใช้การ fracking ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดที่แม่นยำของส่วนผสมของสารเคมี

แต่เป็นที่รู้กันว่ามีประมาณ 700 สารเคมีที่แต่ต่างกันที่ใช้ในกระบวนการ

อีกความเสี่ยงหนึ่งคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ก๊าซธรรมชาติถูกกู้คืนโดยการ fracking ที่ประกอบไปด้วยก๊าซมีเทนจำนวนมาก

ก๊าซเรือนกระจกนั้นส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า

ก๊าซธรรมชาตินั้นมีความรุนแรงต่ำกว่าถ่านหินเมื่อถูกเผา

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผลกระทบด้านลบของ fracking

ที่มีต่อสมดุลสภาพอากาศโดยรวมนั้นมีมากขึ้น

อย่างแรก กระบวนการ fracking นั้นต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล

อย่างที่สอง รูที่เจาะจะถูกใช้จนหมดอย่างรวดเร็วและมันยังจำเป็นจะต้องเจาะ

รู fracking บ่อยกว่าบ่อก๊าซธรรมชาติแบบดั้งเดิมมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของก๊าซที่ถูกกู้คืนจะหายไประหว่างการสกัดและระเหยไปสู่ชั้นบรรยากาศ

ดังนั้นวิธีการ fracking และผลประโยชน์ที่คาดหวังจะต้องถูกประเมิณค่าว่า

เมื่อไหร่ที่ผลประโยชน์จะสมดุลกับผลเสีย ?

เมื่อถูกใช้อย่างถูกต้อง เทคนิคนี้จะเป็นอีกทางหนึ่ง

ในระยะสั้นถึงปานกลาง ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์สำหรับการใช้พลังงานต้นทุนต่ำของพวกเรา

แต่สำหรับผลที่ตามมาในระยะยาวของการ fracking ยังทำนายล่วงหน้าไม่ได้

และความเสี่ยงต่อน้ำดิ่มของพวกเรานั้นก็ไม่ควรประมาท

Subtitled by Phuchit Sirimongkolsathien