วิดีโอ
สรุป
จากทะเลทรายที่แห้งแล้ง ไปจนถึงเกาะที่โดดเดี่ยว และภูเขาที่สูงที่สุด
ไม่ว่าที่ใดก็ตามที่มีพื้นสำหรับขยายเผ่าพันธุ์ไปได้ มนุษย์ก็จะทำ
เพราะฉะนั้นจึงไม่ค่อยน่าประหลาดใจที่เรากำลังเริ่มเตรียมการ..
ที่จะเหยียบย่างพื้นดินดาวอังคาร..
และเริ่มสร้างอาณานิคมแบบถาวรที่นอกโลกไว้
หรืออาจตั้งอาณานิคมบนดาวดวงอื่นและเปลื่ยนให้เป็นดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงที่สอง
แต่เดี๋ยวก่อน
ก่อนที่เราจะไปถึงอนาคตที่สวยงามนั้น
เราจะต้องดำเนินการระยะที่ 2 ของการตั้งรกรากให้เสร็จเสียก่อน..
ด้วยการสร้างด่านหน้าแบบกึ่งถาวร..
เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับประชากรมนุษย์ที่จะเพิ่มมากขึ้น
แต่การทำเช่นนั้นอาจดูน่าสยดสยอง
แม้สำหรับสายพันธุ์ที่มีการขยายเผ่าพันธุ์อย่างเรา ดาวอังคารก็ยังยากอยู่ดี
หากมองอย่างผิวเผิน ดาวอังคารจะคล้ายคลึงกับโลก..
ทั้งน้ำแข็งที่ขั้วโลก หุบเขาขนาดใหญ่..
น้ำซึ่งเป็นของเหลวใต้พื้นผิว..
และวันที่ยาวนานกว่าโลกเล็กน้อย
ซึ่งเป็นที่ในอุดมคติสำหรับเรา
แต่น่าเสียดาย จริง ๆ แล้วดาวอังคารหนาวเย็น และมีทะเลที่เป็นกัมมันตรังสี..
ซึ่งพื้นดินเป็นพิษและไม่สามารถหายใจได้
ดาวอังคารนั้นน่ากลัว
คุณเกือบที่จะไม่อยากไปที่นั้นแแล้ว
ผู้บุกเบิกที่ทำงานอย่างหนักบนดาวอังคารจะมีชีวิตที่เครียดมาก..
และเต็มไปด้วยปัญหาที่ท้าทายอย่างไม่น่าเชื่อที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายที่ต้องการที่จะทำมัน..
และพวกเราซึ่งมีเทคโนโลยีที่สามารถทำให้พวกเขาทำได้
สำหรับวิดีโอนี้ พวกเราจะสมมุติว่ามีภารกิจไปดาวอังคาร..
เพื่อสำรวจหาที่ซึ่งเหมาะสำหรับการตั้งด่านหน้า..
กักเก็บทรัพยากรและอุปกรณ์..
และที่นั่นก็คือฐานทัพบนดวงจันทร์..
ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมสำหรับภารกิจสำรวจดาวอังคาร
ความท้าทายหลักอย่างแรกก็คือด่านหน้าของเรา
เนื่องจากดาวอังคารขาดแคลนพลังงานมาก
เพราะว่าระยะทางจากดวงอาทิตย์
พลังงานแสงอาทิตย์สามารถใช้ได้แค่เพียง 40% เมื่อเทียบกับโลก
แม้แต่แสงแดดที่อ่อนแรงนี้มักจะถูกบดบังอยู่หลายวัน..
โดยพายุฝุ่นขนาดใหญ่
พลังงานแสงอาทิตย์อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ
ทางเลือกอย่างอื่น เช่น พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พิภพ ก็ทำไม่ได้เช่นกัน
เนื่องจากชั้นบรรยากาศที่น้อยและความหนาวเย็นของดาวอังคาร
ในขั้นต้น เทคโนโลยีนิวเคลียร์อาจเป็นทางเลือกเดียว
เนื่องจากดาวอังคารไม่มีธาตุกัมมันตรังสีที่เข้าถึงได้ง่าย
เชื้อเพลิงสำหรับนิวเคลียร์จะต้องนำมาจากโลก รวมไปถึงเตาปฏิกรณ์ด้วย
ถ้าเราติดตั้งสำเร็จ มันจะสามารถให้พลังงานแก่ด่านหน้าไปได้เพียงแค่ 2-3 ปีแรก
แต่น่าเสียดาย พลังงานทั้งหมดจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ถ้าหากเราไม่สามารถหายใจได้
ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารมีความหนาแน่นเพียงแค่ 1% เมื่อเทียบกับโลก
ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย CO2 (คาร์บอนไดออกไซด์)
ดังนั้นแล้วแหล่งที่อยู่อาศัยจะต้องมีความกดอากาศที่เต็มไปด้วยชั้นบรรยากาศเทียม
ซึ่งจะสร้างไนโตรเจนและออกซิเจน
นี่จะก่อให้เกิดปัญหามากขึ้น
กำแพงที่มีมุมและเรียบจะเป็นจุดที่อ่อนแอ่
ฉะนั้นแหล่งที่อยู่อาศัยจะต้องมีรูปร่างกลมและลื่น
เพื่อรับมือกับความกดอากาศที่ต่างกันอย่างมากระหว่างภายในและภายนอก
ห้องแอร์ล็อกจะต้องถูกอัดลมและทำงานอย่างสมบูรณ์ตลอดเวลา
การที่ไม่มีสนามแม่เหล็กที่กว้างขวางหรือบรรยากาศที่หนาแน่นพอ
รังสีครึ่งหนึ่งที่มาจากอวกาศจะมาถึงพื้นดิน
คนซึ่งอยู่บนพื้นผิวจะได้รับรังสีมากกว่าคนที่อยู่บนโลกมากถึง 50 เท่า
3 ปีบนพื้นผิวดาวอังคารทำให้ปริมาณในการรับรังสีที่กำหนดไว้สำหรับ..
นักบินอวกาศของนาซ่าตลอดอาชีพของพวกเขาเกิดที่จำกัดไว้แล้ว
นี่จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญ
เพื่อป้องกันรังสี เราสามารถป้องกันที่อยู่อาศัยด้วยชั้นบาง ๆ ของ CO2 เยื่อแข็ง
ซึ่งสามารถหามาได้โดยตรงจากชั้นบรรยากาศ
การหุ้มด้วยน้ำแข็งแห้งและดินหนา ๆ จะเป็นการยกระดับในการป้องกัน
แต่เป็นที่น่าเศร้า นี่หมายหมายว่ามันจะไม่มีหน้าต่าง
จากด้านใน พื้นที่อยู่อาศัยจะเป็นเหมือนกับอุโมงค์ซึ่งไม่มีหน้าต่าง
จากด้านนอก มันจะเหมือนกับสุสานฝังศพ
ทั้งหมดนี่ก็ยังไม่สามารถป้องกันรังสีได้ทั้งหมด
แต่ก็เพียงพอที่จะเพิ่มระยะเวลาในการอยู่รอดได้
อย่างไรก็ตามมันจะไม่ปกป้องใครก็ตามที่อยู่ข้างนอก
ดังนั้นหุ่นยนต์ควบคุมระยะไกลจะถูกใช้เพื่อทำงานต่าง ๆ บนพื้นผิว
ในขณะที่บุคลากรอยู่ในบ้าน
การอยู่ในบ้านก็เป็นความคิดที่ดีด้วยเหตุผลอื่น:
ฝุ่นดาวอังคาร
มันละเอียดกว่าฝุ่นบนโลกมาก
ดังนั้นมันจึงสามารถหาทางเข้าไปในเกียร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องจักรได้
ถึงทั้งอากาศที่แห้งมาก ทำให้เกิดประจุไฟฟ้าสถิต
ซึ่งทำให้ฝุ่นติดกับทุกอย่าง อย่างเช่นชุดอวกาศ
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลีกเลี่ยงการพบเจอกับฝุ่นดาวอังคารในแหล่งที่อยู่อาศัยของเรา
และเข้าไปในปอดบุคลากรของเรา
ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ดินของดาวอังคารเต็มไปด้วยเกลือเปอร์คลอเรตที่เป็นพิษอย่างมาก
การเปิดประตูตลอดเวลาสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อย่างไรก็ตามปัญหานี้ยังสามารถเอาชนะได้
อย่างเช่น ชุดอวกาศจะต้องถูกทำมาในลักษณะที่ไม่ต้องนำเข้ามาในฐาน
แต่จะอยู่ติดกับที่อยู่อาศัยด้านนอกแทน
โอเค เยี่ยม
ตอนนี้เราแยกมนุษย์อย่างปลอดภัยในแง่ของพลังงานและอากาศ
และป้องกันพวกเขาจากมะเร็ง พวกเขาจำเป็นที่จะต้องมีเสบียงอาหาร
น้ำนั้นหาง่ายมากโดยถ้าเราตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้ขั้วโลกของดาวอังคาร
ซึ่งจะมีชั้นน้ำแข็งบาง ๆ
อย่างไรก็ตามการปลูกพืชก็เป็นความท้าทายที่แตกต่างกัน
ดินของดาวอังคารเป็นด่าง..
และขาดสารประกอบไนโตรเจนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
ก่อนที่เราจะปลูกอะไรได้ เราจะต้องทำให้ดินไม่ปนเปื้อนเสียก่อน
ซึ่งเป็นการยากและแพง
จากนั้นเราจะสามารถทำปุ๋ยได้โดยนำขยะชีวภาพรีไซเคิล
ทั้งหมดนี้จะต้องใช้เวลานานและใช้พลังงานจำนวนมาก
ฉะนั้นเราอาจใช้เกษตรวิถีประมงเพื่อเลี้ยงปลาและปลูกพืชไปด้วยกัน
ทำให้อาหารสำหรับนักบินอวกาศหลากหลายและมีรสชาติดีในเวลาเดียวกัน
นี่จะเป็นแรงผลักดันทางด้านจิตวิทยาที่สำคัญสำหรับบุคลากรที่ทำงานหนัก
อย่างไรก็ตามทั้งหมดเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาพื้นฐานนี้ได้:
ดาวอังคารมีแรงโน้มถ่วงแค่ 38% เมื่อเทียบกับพื้นผิวของโลก
ซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและกระดูก และปัญหาโรคหัวใจและหลอดเลือด
ในขณะที่ปัญหานี้อาจแก้ได้ในอนาคตด้วยการสร้างที่อยู่อาศัยที่หมุนได้
สำหรับตอนนี้ บุคลากรของเรายังต้องอาศัยอยู่ในแรงโน้มถ่วงที่ต่ำ..
และออกกำลังกายอย่างมากเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกาย
บุคลากรเหล่านี้จะต้องมีการผลัดเปลี่ยนทุก ๆ 2-3 ปี
หลังจากที่ติดอยู่ภายในพื้นที่แคบ ๆ ที่ไม่มีหน้าต่าง..
กับคนเดิม ๆ ทำกิจวัตรเดิม ๆ วันแล้ววันเล่า
ซึ่งมีการติดต่อจากโลกภายนอกน้อยมาก
และมีเรื่องให้คิดมากมาย
เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ในแอนตาร์กติกาหรือเจ้าหน้าที่เรือดำน้ำ
พวกเขาจะได้รับการตรวทางจิตวิทยาอย่างเข้มข้น
เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีจิตใจที่ยืดหยุ่นพอที่จะใช้ชีวิตในลักษณะนี้เป็นเวลาหลายปี
การสร้างโครงสร้างพื้นฐานจริง ๆ ครั้งแรกบนดาวอังคารจะต้องใช้เงินมหาศาล
ซึ่งจะต้องเป็นกลุ่มคนที่แน่วแน่และรอบรู้ถึงจะทำได้
อย่างโชคดีที่มีผู้คนมากมายเช่นนี้บนโลก
และคุณจะทำสำเร็จ!
ฐานเล็ก ๆ บนดาวอังคารจะอยู่รอดได้อย่างน้อย 2-3 ทศวรรษ
ตราบเท่าที่มันได้รับการจัดหาทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง..
ชิ้นส่วน เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ และบุคลากรจากโลก
แต่อย่างโชคร้าย ดาวอังคารและโลกอยู่ห่างกันเป็นล้านกิโลเมตร..
และคาบการโคจรที่ทำให้หน้าต่างการเดินทางในระยะทางที่สั้นเกิดขึ้นได้แค่ทุก ๆ 2 ปี
ถ้าหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นในอาณานิคม..
โลกจะไม่สามารถช่วยเหลือได้จนกว่าหน้าต่างการเดินทางครั้งหน้าจะเปิด
ความช่วยเหลืออาจไปถึงในสภาพดาวที่เต็มไปด้วยศพ
การตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารจะเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดเท่าที่เราเคยเจอ
มันจะเป็นงานที่สยดสยองที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เราต้องการ
แต่พวกเรานั้นดื้อดึงและชอบความท้าทายอย่างมาก
ถ้าหากเราผ่านระยะที่ 2 ของการตั้งรกราก ทุกอย่างก็เป็นไปได้
มีเมืองที่สว่างไสวในค่ำคืนของดาวอังคาร
มีศูนย์รวมสำหรับการเดินทางระหว่างดาว
มีอุตสาหากรรมส่งยานอวกาศ
มีอาณานิคมบนดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในอนาคต
การไปดาวอังคารนั้นยาก แต่มันก็คุ้มค่า
และถ้าหากเราโชคดี เราอาจอยู่ได้นานพอที่จะเห็นมันเกิดขึ้น
และให้กำลังใจกับผู้คนที่กำลังก้าวผ่านความท้าทายนี้
เพื่อประโยชน์มากมายสำหรับเรา
ในการแก้สิ่งที่ซับซ้อนเป็นหนึ่งในความรู้สึกที่ดีที่สุดที่เคยมีมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณไม่ต้องทำมันด้วยตัวเอง
เพื่อนของเราจาก Brilliant สามารถช่วยคุณในสิ่งนั้นได้
Brilliant เป็นเว็บไซต์แก้ปัญหาด้วยแนวทางปฏิบัติ
แทนที่จะทิ้งแนวคิดที่ซับซ้อนไว้ข้างหน้าคุณ
พวกเขาช่วยให้คุณคลี่คลายพวกมันทีละนิดและสร้างข้อสรุปที่น่าสนใจ
ด้วยวิธีนี้ วิทยาศาสตร์จะกลายเป็นสิ่งที่คุณทำอย่างแข็งขันและไม่เพียงแค่ได้ยินมาก
ด้วย Brilliant คุณสามารถเอาชนะได้..
ด้วยหลักสูตรและปริศนาที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับหัวข้อนั้น ๆ
เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ แรงโน้มถ่วง และดาราศาสตร์
ถ้าหากคุณไปยัง brilliant.org/nutshell หรือคลิกที่ลิงก์ในคำอธิยาบด้านล่าง
คุณสามารถลงทะเบียนได้ฟรีและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ
และเพื่อเป็นโบนัสสำหรับคนดู Kurzgesagt
688 คนแรกจะได้รับส่วนลด 20% สมาชิกรายปี
ด้วย Brilliant คุณจะผ่านแต่ละวันไปได้อย่างฉลาดขึ้น
และไม่มีฝุ่นดาวอังคารมากวนใจ
พวกเราสัญญา!
ยังได้ข้อมูลเกี่ยวกับดางอังคารไม่พอหรอ?
พวกเราได้ทำโปสเตอร์เกี่ยวกับมันแล้ว
คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวความยากลำบากของอาณานิคมบนดาวอังคาร
หรือเพียงแค่ดูสีสวย ๆ
ไปเลยได้ที่นี่!